สำเนาพระราชหัตถ์เลขาส่วนพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ถึง มหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)

ถึง เมื่อครั้งเป็นเสนาบดีกระทรวงนครบาล   (๓)

รัตนโกสินทรศก ๑๒๙ (ร.ศ. ๑๒๙) = พ.ศ. ๒๔๕๓
รัตนโกสินทรศก ตั้งต้นจาก ๑ เมษายน

สวนดุสิต
วันที่ ๕ เมษายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้ลาไม่ไปพิธีตรุศ จะไปต่อแรม ๑๔ ค่ำ มีวัน ๒ วันคิดจะเลี้ยงกันที่พญาไท เช่นครั้งก่อน แต่พรุ่งนี้จะทันฤๅไม่ๆทราบ แล้วแต่ดุ๊กกับอาภา(๑) มรืนนี้นั้นเป็นแน่ ถ้าสบายอยู่ให้ไปกินเข้า

สยามินทร์

(๑) กรมหลวงชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์


(ลายพระราชหัดถ์บันทึก)
เคยกล่าวกันว่ากลัวเป็นทหาร เพราะห่วงบิดามารดาบุตรภรรยา จะไม่มีใครหาเลี้ยงอย่างแต่ก่อน กลัวจนกินยาตายแล้วใครจะเลี้ยงที่ห่วงเล่า ใครบอกว่าตายเพราะกลัวเป็นทหาร เพราะพบเข้ามันตายแล้ว เจ้าพระยายมราชรู้อย่างไร

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๑๗ เมษายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

ถึง เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๑๖ แล้ว เรื่องน่าที่ของพลชาววังแต่ก่อนใช้เป็นตัวเลข เพราะเป็นคนคงหมู่ บัดนี้จะได้จัดการอย่างใหม่ ทำนองเดียวกันกับโปลิศ ส่วนการศุขาภิบาลจะต้องใช้เป็นการจ้าง คนจ้างคงเป็น ๒ จำพวก การที่ควรจะใช้ไทย ต้องจ้างคนสมัคเงินเดือนสูง ส่วนการกุลี เช่นคุ้ยท่อของกรมศุขาภิบาลต้องใช้เจ๊ก การพอที่จะจัดเอาเรียบร้อยได้ ข้อสำคัญอยู่ที่ตัวผู้บังคับการ จำเป็นจะต้องหันไปตามสมัย แต่ธรรมดาคนเรา การใดที่ดีแก่ตัวมักไม่ใคร่รู้สึก รู้สึกแต่การที่บกพร่อง อย่างเช่นเจ้าแผ่นดินไม่ได้มีอำนาจเหนือขุนนางอย่างแต่ก่อน ผิดไปเท่าใด ขุนนางไม่ใคร่รู้สึก แต่ขุนนางที่เป็นนายบังคับบัญชาไพร่ไม่ได้ดังแต่ก่อนรู้สึกดี การเช่นนี้และมันจึงทำให้คนล้าเร็ว คนที่อยู่บนหลังม้าจำจะต้องตั้งใจไปกับม้า ถ้าหากว่าตั้งใจจะอยู่ ม้ามันจะไปก็ต้องพลัดตก เหตุฉนี้แลข้าราชการจึงต้องเปลี่ยนร่ำไปเพราะกลับตัวไม่ทันเวลา

ซึ่งการงานจะได้เร่งรัดให้สำเร็จไปในต้นปีนี้ เป็นการดีมากเมื่อเสร็จสงกรานต์นี้แล้ว จะได้กวดขันการงานกันต่อไป

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๑๘ เมษายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้ยินข่าวป่วยเข้าแล้วไม่ใคร่สบายใจ อย่าหักโหมตัวให้มากนัก ต้องถือเวลากินให้เคร่งบ้าง แบบบางนัก ถ้าหักโค่นจะเสียการมากไป

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๓๐ เมษายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

คอเรสปอนเดนต์ในหนังสือบางกอกไตมส์วันนี้ ที่ลงชื่อเมอร์เชนต์ ว่าด้วยเรื่องทหาร ทำเสียงแข็งรุนแรงมาก สังเกตดูว่าคนไทยๆ เราได้ท้ายฝรั่งแล้ว มักจะอุ่นใจว่าเขาพูดถูกคงจะไม่พลาด ชวนจะกระจุกกระจุยมากขึ้น หนังสือจีนโนก็ลงยาวเมื่ออาติกลที่แข็งลงไปเช่นนี้แล้วกลัวจะกำเริบกันขึ้นอีก อยากจะรู้ความจริงว่าผู้ที่ได้ความเดือดร้อน กระสับกระส่ายรุนแรงมากๆ ด้วยกันฤๅอย่างไร ขออย่าให้เกรงใจ ช่วยสืบสวนความที่เป็นจริงอย่างไรบอกมาให้ทราบ เห็นว่าเป็นเวลาจะเกิดแคมเป็นกันเสียแล้ว

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๘ พฤษภาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

จะเตือนอะไรสักอย่างหนึ่ง เรื่องเงินเรี่ยรายราษฎรทำรูปนั้น ดูการนานมาแล้วยังไม่ได้รวมบาญน้ำบาญชีอย่างไร มันเป็นที่ขัดข้องอย่างไรอยู่บ้าง

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๑๐ พฤษภาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

ถึง เจ้าพระยายมราช

มีความยินดีที่การเรียกคนเป็นทหารยุติกันลงทีหนึ่ง การที่ทำได้โดยเรียบร้อยนี้ ถ้าเป็นคนอื่นทำไม่สำเร็จ นับว่าเป็นการยากอย่างยิ่ง เพราะคนตั้งร้อยตั้งพันจะหาช่องวิวาทอยู่ ทั้งนั้น มีดีอยู่อย่างหนึ่งที่คนไทยเป็นสัณดานอ่อน ซึ่งไล่ขึ้นทั้ง ๒ ทางยุก็ขึ้น ปลอบก็ยินดี ข้อที่หวังใจว่าจะเป็นที่เรียบร้อยได้นั้นคือเป็นชาติขี้หลงขี้ลืมอย่างยิ่ง เจ็บอะไรก็ไม่รู้จักจำ เข็ดไปหน่อยหนึ่งพอชินก็หาย การที่วิ่งตกอกตกใจเพราะกลัวเก่าที่ต้องเป็นหมู่ทหาร แลเพราะถูกคนยุ ในหนังสือพิมพ์ขี้เหร่ที่ยังเขย่าขย่อน อวดฉลาดอยู่เดี๋ยวนี้ว่าพระราชบัญญัติมีแต่เกณฑ์ทหารไม่มีเกณฑ์โปลิศ มันได้ท้ายฝรั่ง ไม่ใช่นึกขึ้นเอง เพราะมันรู้จักแต่เมืองอังกฤษเมืองเดียว แลที่เราเรียกว่าเกณฑ์เป็นพลตระเวนๆ มันต่างกันไปกับตำรวจภูธร ถ้าเพาะอย่างไรให้มันรู้ได้ว่า พลตระเวนนี้ก็คือยองดาร์มๆ ฝรั่งเขาก็เกณฑ์เหมือนกัน เท่านั้นก็จะแบ่งกำลังลงได้ครึ่งหนึ่ง เหลือแต่จะยกว่าอังกฤษเขาไม่ได้เกณฑ์

ใจกลับไปรังเกียจเรื่องสัก(๑) ดูไม่จำเป็นที่จะต้องสักแล้วการที่สักนั้นจะทำให้มีคนรังเกียจได้บ้าง

สยามินทร์

(๑) การเกณฑ์เข้ารับราชการทหารแต่ก่อนต้องสักเครื่องหมายเหล่าที่แขน ได้โปรดเกล้าให้ยกเลิก โดยพระราชดำริห์นี้


สวนดุสิต
วันที่ ๑๑ พฤษภาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้สังเกตฤๅไม่ว่า หนังสือพิมพ์ทั้งไทยทั้งฝรั่งลงไม่ใช่หนเดียวว่า มีพระราชโทรเลขถามข่าวกวีนอาเลกซานดรา(๑) ทางฟอเรนศ์ออฟฟิศ เมื่อได้เห็นหนังสือนั้นจับเหตุผลได้ว่า น่าจะเกิดทางออฟฟิส เพราะประวิตร(๒) เป็นผู้ได้เกี่ยวข้องอยู่ในการนี้ จึงได้มีหนังสือถามประวิตรก็ไม่ได้ความว่าจะออกไปทางไร กลับหาฤๅมาว่าจะไปวานเจ้าพระยายมราชช่วยสืบ แลคอมเปลนด้วยการในออฟฟิศบางอย่าง

ข้อซึ่งจับได้ว่าออกจากออฟฟิศนั้น เพราะตั้งแต่เห็นหนังสือพิมพ์เวลากลางคืนบอกอาการประชวร ก็ได้ทายเสียแล้ว ว่าพรุ่งนี้จะได้ข่าวกิงเอดเวิต(๓) ตาย พอรุ่งขึ้นได้โทรเลข ก็เขียนหนังสือไปถึงกรมหลวงเทววงษในทันที ด้วยเชื่อแน่ว่าเห็นความจริง สั่งว่าให้สืบดูที่สถานทูต ถ้าเขาได้ข่าวทางราชการแล้ว ให้เธอเขียนพระราชโทรเลขถามข่าวกิงยอช(๔) ฉบับหนึ่ง สั่งบวรเดชให้ไปช่วยงานพระศพฉบับหนึ่ง แต่ในคืนวันนั้นก็ไม่ได้ข่าวแน่มาทางทูต แต่ได้ข่าวจากพระยาวิสูตร เพราะเหตุที่ได้สั่งกรมหลวงเทววงษไว้ก่อนแล้ว จึงไม่ต้องสั่งอะไร เพราะฉนั้นเรื่องมีโทรเลขถึงเจ้าแผ่นดินจึงไม่มีปรากฎในออฟฟิศเหมือนอย่างกรมหลวงเทววงษถวายหนังสือมาแล้วก็ทรงนิ่งเท่านั้น

ครั้นเวลากลางคืนได้รับหนังสือประวิตรฉบับหนึ่ง ว่าได้ทูลหาฤๅกรมหลวงเทววงษ์ว่าที่กวีนอาเลกซานดราแลกวีนมอด(๕) จะควรมีพระราชโทรเลขฤๅไม่ กรมหลวงว่าควรมี ลืมไป ให้มีไปเสียก่อนแล้วจึงค่อยกราบทูลจะได้ไม่ช้า ประวิตรก็รีบตาลีตาลานเข้ามาในออฟฟิศ เอาโทรเลขที่ได้ร่างไว้เสร็จแล้วนั้นส่งให้มีไปสำเนาจึงได้มีเก็บอยู่ในออฟฟิศ

ถ้าหนังสือพิมพ์รู้จากกระทรวงต่างประเทศ คงรู้แต่พระราชโทรเลขถึงกิง ถ้ารู้จากกรมโทรเลขคงต้องรู้ทั้ง ๓ ฉบับ นี่ปรากฏว่ารู้แต่ถึงพระมเหษี ก็คือออกจากออฟฟิศนี่เอง แต่ข้อซึ่งว่ามีไปทางฟอเรนศ์ออฟฟิศนั้น เห็นจะเป็นด้วย .....................................................................
............................................................................................................ จึงกดลงไปให้มีใบบอกไปยังกระทรวงต่างประเทศ แต่ได้ความไปนั้นคงจะเป็นคนไทยที่เป็นเจ้าพนักงานในออฟฟิศชั้นต่ำๆ บอกเอดิเตอร์ไทยซึ่งเป็นคนชอบพอกัน เอดิเตอร์ไทยถึงไปบอกฝรั่งอีกต่อหนึ่ง

การเรื่องที่ถามข่าวเช่นนี้ไม่เป็นข้อที่ควรปิดบังอย่างหนึ่งอย่างใด เขาลงพิมพ์กันถมไป แต่ถ้ามีตัวผู้บอกๆ ความขาดๆ หวิ้นๆ แก่เอดิเตอร์หนังสือพิมพ์ ซึ่งไม่มีวิญญาณพอที่จะหยั่งรู้ชอบแลผิด อาจจะเอาอะไรต่ออะไรไปลงพิมพ์ให้ผิดไปจากความจริง เกิดตึงตังกาหลกันได้ จึงอยากรู้เสียว่าใครเป็นคอเรสปอนเดนต์ของหนังสือพิมพ์อยู่ในออฟฟิศ เมื่อเขาอยากรู้อะไรจะได้ให้เขารู้ดีขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อย

สยามินทร์

(๑) สมเด็จพระราชินีแห่งประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นพระอัยยิกาสมเด็จพระเจ้าย๊อชที่ ๖ พระเจ้าแผ่น ดินอังกฤษในปัจจุบันนี้   (๒) กรมหลวงปราจีณกิติบดี   (๓) สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นพระอัยยกาสมเด็จพระเจ้าย๊อชที่ ๖   (๔)
พระเจ้าย๊อชที่ ๕ พระราชบิดาพระเจ้าย๊อชที่ ๖   (๕) สมเด็จพระราชินีแห่งประเทศนอร์เว


สวนดุสิต
วันที่ ๑๓ พฤษภาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

หนังสือพิมพ์นั้นลงแก้จริง ที่จริงเรื่องราวมันจะออกไม่สลักสำคัญ แต่มันกลับเป็นขำกันไปมาก เพราะเหตุที่หนังสือพิมพ์เดลิเมล์ไม่ยอมบอกชื่อผู้ที่ให้ข่าว อ้ายนั่นร้ายแก่เจ้าพนักงานในออฟฟิศ แต่มันก็ชอบกลนักหนา ท่านเล็ก(๑) มีโทรเลขแอดเดรส To H.M. the Queen of England ซึ่งตามธรรมเนียมอังกฤษต้องเข้าใจว่ากวีนมารี(๒) แต่ข้อความต่อลงไปมันเป็นสำหรับ กวีนอาเล็กซานดรา ...................................... คราวนี้เจ้าพนักงานเขา ลังเลเอาไปส่งกระทรวงต่างประเทศ บัดนี้เซอร์เอดเวิดเกร มีโทรเลขตอบ ขอบใจในพระนามกวีนอาเล็กซานดรา ...................
แต่เดี๋ยวนี้วันที่มีไปช้าไม่ใช่วันที่ ๘ ซึ่งหนังสือพิมพ์เดลิเมล์จะเอามาลงพิมพ์ได้ จึงต้องว่ามิใช่

อนึ่งอยากจะทราบว่าดอกเตอร์เลียวนาด(๓) แกสันทัดในการเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่จริงๆ ฤๅๆสักแต่ว่าเป็นหมอก็รู้ว่าเขาเลี้ยงอย่างไร แกไม่เคยเป็นธุระดูแล ขอให้สืบถามแกดูสักหน่อย

สยามินทร์

(๑) สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงษ์วรเดช   (๒) สมเด็จพระราชินีประเทศอังกฤษ พระราชมารดาสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษปัจจุบันนี้   (๓) สัตวแพทย์กระทรวงเกษตราธิการ


สวนดุสิต
วันที่ ๒๔ พฤษภาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้ดูหนังสือพิมพ์ไทยวันนี้ฤๅไม่ แห่พระศพเก่งอีก อ้ายศพขึ้นก้นแคเรชมันเห็นขึ้นไม่ได้ จึงต้องเกลื่อนไปเป็นกองปืนแล้วยังต้องแถมรถจูงพระศพรอแยลเรเกเลีย หมดปัญญาเข้าก็ต้องแปลว่าแสงสว่างเป็นประกายห้อมล้อม ยังเก่งอีกนั้น ถัดมามีกระบวนเป็นภูเขา ซ้ำแถมอธิบายในเล็บมือว่า ทำอย่างเขาที่พระเยซูได้ถึงแก่กรรม นี่เป็นอย่างเรียกว่ากุชัดเจน คำที่เอามาแปลว่าภูเขานั้นเห็นจะมีใครเมานต์ขึ้นม้า จำคำโทรเลขในภาษาอังกฤษไม่ได้เสียแล้ว เมื่อได้เห็นเช่นนี้แล้ว เข้าใจวิธีแปลของผู้แปลนี้ ว่าแปลชนิดเดียวกันกับ ....................... แปลชื่อมิสเตอร์สโตรเบล เป็นรฆังฟาง ความรู้ต้องเป็นคนชนิดนี้ แลพุ่งได้แรงๆ ชนิดนี้ไม่เช่นนั้นก็ตากุตาเทียนทีเดียว ไม่ใช่คนเลวละจำเป็นจะต้องรู้จักตัวจงได้ว่าใครเป็นผู้แปลเป็นนักปราชญ์อีกคนหนึ่ง ซึ่งควรจะนับเข้าในหมวดตาเทียนได้ ขอให้คิดอ่านสืบให้ได้ตัวสักที

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๒๘ พฤษภาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ความคิดในหนังสือประกาศข้างจีนครั้งนี้ เลยไปถึงสไตรก์ซึ่งยังไม่เคยมีในเมืองเรา ถ้ามีขึ้นน่าจะเป็นบ่อยๆ เพราะเราต้องอาไศรยเจ๊กอยู่มากนัก ที่ว่านี้ว่าทางสไตรก์ธรรมดา แต่ถ้าหากว่าจะมีเหตุ น่าจะเกิดข่มเหงกันขึ้นก่อน ตามทางที่ว่าถ้าใครไม่ทำตามประกาศให้ข่มเหง ลงรอยอย่างที่เรียกว่าจีนวิวาทกันอย่างเก่า ถึงต้องใช้ทหารออกปราบนั้น การครั้งนี้ก็ไม่คิดเห็นว่าจะเป็นถึงเช่นนั้น แต่มันกระทบกันหลายเรื่อง ตลอดจนถึงดาวหาง จึงไม่ไว้ใจ จึงได้กระซิบไปให้ทหารบกทหารเรือรวังตัวไว้แล้ว แต่อย่าให้เตรียมจนคนตกใจ ถ้าชุลมุนที่จะต้องใช้กำลังมาก เจ้าพระยายมราชจะขอกำลังจากผู้บัญชาการทหารบกทหารเรือช่วยได้

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๓๐ พฤษภาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

ถึง เจ้าพระยายมราช

จดหมายส่งข้ออาณัตรักษาการวันที่ ๑ มิถุนายนมานั้นได้ทราบแล้ว ฝ่ายทหารเขาก็ส่งข้ออาณัตมาให้ทราบด้วยแล้ว

เห็นว่าคำสั่งที่สั่งนั้นดีแล้ว กำชับกันแต่เรื่องทุบตีกันโดยไม่จำเป็น อย่าให้มีขึ้นเพราะอ้ายพวกหมอความคอยเป็นสัตรูทหารแลโปลิศ คงจะซอกแซกแกะเสก็ดในทางนี้ การที่จะเลิกรวังนั้นต้องสังเกตุเอาความสงบเรียบร้อยเป็นประมาณ

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๑ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

รายงานที่ ๑๕/๒๓๒๕ ที่ ๑๖/๒๓๒๖ ได้รับแล้ว เห็นว่าเหตุการได้มีขึ้นด้วยความตกใจเป็นมากกว่าอย่างอื่น ถ้าความตกใจยังมีอยู่เช่นนี้ พวกจีนยังเห็นเป็นช่องที่จะขู่ได้ การที่ให้ทหารบกแลทหารเรือออกลาดตระเวนด้วยนั้นถึงเวลาแล้ว เพราะเหตุที่คนตื่นเกินกว่าที่จะตื่นเพราะทหาร ด้วยเห็นเป็นการใหญ่กันเสียแล้ว จะหนักขึ้นฤๅจะเบาลงจะได้เห็นพรุ่งนี้ สงไสยว่าจะต้องถึงแตกหักจึงจะสงบ การที่จะสงบต้องสงบด้วยความเชื่อการปกครอง แต่เราต้องดูมันไปกว่าจะมีเหตุจำเป็น

หนังสือพิมพ์ว่ามีผู้แต่งข่าวไปบอกว่า เรือรบจีนจะมาช่วยนั้น อาจจะทำให้ถึงเลือดถึงเนื้อ คนที่จับๆ มาเอาไว้ที่ไหน ถ้าหากว่าจับมาแล้วกลับหลุดออกไปได้แล้วจะร้ายมาก

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๑ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้นึกอยู่ว่าเห็นจะไปทเลไม่ได้ ก็พอได้รับหนังสือกรมหลวงดำรงคิดต้องกัน แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะสั่งออกไปทีเดียวจะดีฦๅจะรอไว้อีกหน่อยหนึ่งก่อน จึงได้นิ่งไว้ฟังรหัดรเหียนดูที ถ้าจะสั่งเลิกตูมตามทันทีจะว่าตกใจมาก แต่ถ้าจะคงกำหนดไว้ จะกลายเป็นมีกำหนดใหม่ครั้งที่ ๒ จึงเห็นว่าจะต้องหาช่องบอกเลิกให้ดี

พิเคราะห์ดูคนไทยเราตามเสียงเล่าฦๅ มันเหมือนพวกลาวเมืองหลวงพระบาง เจ๊กนี้คือข่า ถ้าไม่ได้อาไศรยข่าก็ไม่มีอะไรกิน ข่าขัดขึ้นมาครั้งไรก็ตกใจเหลือเกิน ไปหวั่นหวาดย่อท้อให้พวกเจ๊กได้ใจ คิดแต่หาเสบียงตบันไป น่าน้อยใจจริงๆ

หนังสือพิมพ์ไทยแต่งถ้อยคำจะนำให้เห็นว่า ....................... เป็นหัวน่า แต่มันกำลังบาดหมางกัน ซึ่งจะเอาเป็นนิยมไม่ได้ที่คำฦๅกันก็ฤๅมุ่งหมายว่าเช่นนั้นเหมือนกัน โดยว่ายังไม่เป็นเลยก็น่าจะเป็นขึ้นได้ ขอให้สืบสวนตัดต้นราก ถ้าเรายังขุดรากไม่ได้เมื่อไร ยังวางใจไม่ได้

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๒ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

บรรดาหนังสือพิมพ์ทั้งหมดเห็นพูดเป็นภาษามนุษย์อยู่แต่หนังสือเดลิเมล์ภาษาอังกฤษ ชี้เหตุชี้ผลดีมาก มีคำหนึ่งที่ว่าพ่อค้าเข้าไม่ยอมขายเข้าด้วย ที่ว่านั้นว่าเรือเข้าเข้าใจว่าเป็นไทย เหตุใดจึงพลอยนิ่งไปด้วย เรื่องบรรทุกเรือเป็นสำคัญ ถ้าเรือมาคั่งอยู่มากจะขาดทุนยับ จำเป็นจะต้องรับมือเข้าบังคับให้ทำงานให้ได้ อ้ายหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆแรงที่สุดถึงชวนให้เอาทหารลงไปเป็นกุลี แต่อ้ายพวกหนังสือไทยทั้งหลายละจ้อยเปล่าจ้อยเปลือย ไม่ได้ๆความว่ากระไรเลย ไทยเอ๋ยไทยนี่มันจะตกต่ำไปถึงไหน น้อยใจเสียจริงๆ

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๓ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือเจ้าพระยาสุรศักดิ์ฉบับหนึ่ง คัดสำเนาส่งมาให้ดู การเช่นนี้เจ้าพระยา-ยมราชคงจะทราบอยู่แล้ว ข้อที่จะสุ่มไปยึดหัวเงื่อนต้องรวังมาก จำจะต้องไม่พลาดแลจำจะต้องเหลืออำนาจไว้ในมือเรา ถ้าตามอย่างความคิดเจ้าพระยาสุรศักดิ์ น่ากลัวจะไปลงรอยครั้งสมเด็จเจ้าพระยา(๑) จัดการปราบอั้งยี่ สงบครั้งหนึ่ง แต่แล้วหัวน่านั้นเองกลับออกน่าเข้าเป็นด้ามต่อสู้ ต้องสืบสวนดูให้รู้เค้าเงื่อนให้รอบคอบ

เมื่อเขียนหนังสือนี้แล้ว จึงได้รับรายงานส่วนวันนี้ เห็นว่าเดินต้องทางพ้นจากที่รังเกียจดังกล่าวมาข้างบนนี้แล้ว

สยามินทร์

(๑) สมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงษ์ (ช่วง บุนนาค)


สวนดุสิต
วันที่ ๔ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือเรื่องสถานทูตฝรั่งเศษส่งตัว หัวน่าในการก่อการวุ่นวายให้นั้น มีความยินดีเป็นอันมาก ถึงเขาจะส่งให้เราด้วยความร้อนตัวอย่างไร ก็ยังเป็นความดีทุกอย่าง ขออำนวยพรแลชมความพยายามของกระทรวงนครบาลดีเป็นอย่างยิ่งขออย่าให้มันหลุดไปได้

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๔ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

จดหมายฉบับก่อนอารามดีใจ หาได้ถามไม่ว่า ................ เป็นคนในบังคับฝรั่งเศษฤๅในบังคับไทย เราจะพิจารณาไต่สวนอย่างไรเข้ามาหาพูดกันด้วยปากเห็นจะดีกว่าเขียนหนังสือ

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๖ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือเจ้าพระยาสุรศักดิ์ บอกข่าวในเรื่องจีนฉบับหนึ่ง ดูความจะกระจุกกระจุยอยู่เอาแน่จริงไม่ได้ มีที่ควรสังเกตอย่างหนึ่ง คือคำที่เรียกอั้งยี่อย่างใหม่ว่า ป้ายเม้งนั้นควรจะสืบให้รู้ไว้ ได้ส่งหนังสือมาให้ดูแล้วให้ส่งคืน

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๘ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

เห็นหน้าเซียวนึกแล้วว่าจะเจ็บ ขอให้รวังรักษาตัวให้ดี ถ้าร่างกายอ่อนที่เป็นที่ตั้งแห่งไข้เช่นนี้ ต้องรวังอย่าให้กระทบอาบน้ำเย็น อย่าให้ต้องดราฟต์ แลให้อาหารละลายง่าย อย่าให้กินสิ่งซึ่งจะไม่ละลาย นอนให้ได้มากที่สุดที่จะนอนได้ ไม่นั่งเล่นใช้นอนเล่นแทน นี่เป็นทางที่เคยปรนิบัติป้องกันรอดเป็นไข้มาหลายคราว ถ้าเอาฝ่ามือกำแขนของตัวเองดู รู้สึกร้อนลึกที่ตรงรอยกำนั้น ถึงจะลองปรอทไม่ขึ้นก็มีไข้ในตัว เร่งกินยาๆ นั้นไม่ต้องกินอะไรแอสไปรินอย่างน้อยคืนละเม็ดพอกำแขนไม่ร้อนเมื่อใดจึงหยุด ขอให้พิจารณาดูเถิด การที่เป็นทั้งนี้เพราะความเหน็จเหนื่อยเหลือเกินเท่านั้น

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๙ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

วันนี้คนสืบข่าวทางทหาร เป็นจีนพวกหนึ่ง ฝรั่งพวกหนึ่ง บอกข่าวร่วมกันว่าอั้งยี่มี ..................... เป็นหัวหน้าเตรียมจะทำการจุลาจลในเรวๆนี้ มีกำหนดวันที่ ๒๐ มิถุนายนเป็น อย่างช้า เรี่ยรายเงินได้เกือบล้านบาท สะสมซื้ออาวุธมาก คิดกันจะตีบริษัทไฟฟ้าดับไฟก่อน บริษัทไฟฟ้าคงจะรู้ตัว จึงไม่คิดจ้างเจ๊กต่อไป มีข่าวต่อไปว่ามีลูกรเบิดด้วย เพราะสั่งเข้ามาทีหนึ่ง ศุลกากรจับได้ เลยแก้ตัวว่าจะส่งไปเมืองจีน แล้วว่าสั่งอีก แต่จะได้มาฤๅไม่ไม่ทราบลูกรเบิดแลอาวุธนี้ว่าอยู่ในอุโมงบ้าน................ อุโมงนี้ฤๅมานานจะเท็จจริงไม่แน่

ข่าวคราวนี้ก็ชอบกล ที่มาสองทางพ้องกัน จึงบอกมาให้ทราบ น่าจะสมกับเรื่องป้ายเม้งที่เจ้าพระยาสุรศักดิ์ว่า

ควรสืบสอบสวนดู ถ้าพอจะหาทางตัดความคิดได้จะได้ตัดเสียก่อนก่อเหตุ

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๙ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ยินดีที่ทราบว่าอาการคลายขึ้น แลเดินตามวิธีที่แนะนำไปนั้น การอ่านหนังสือคนอื่นอย่างไรไม่รู้ แต่ตัวเองรู้สึกว่าเป็นที่ตั้งแห่งสมาธิ เจ็บฤๅเมาคลื่นอ่านหนังสือเพลินเสียแล้วเป็นธุเลาส่งเติมมาให้อีกเล่มหนึ่ง เล่มนี้ไม่สู้จะเป็นแก่น แต่สนุก เห็นจะเป็นตอนิกสำหรับเวลารื้อไข้ค่อยสบายได้

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๑๑ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ไหนๆ ตั้งเค้าว่าด้วยเรื่องปาเลียเมนต์เมืองไทยแล้ว ต้องเถียงต่อเสียหน่อยว่าจีนที่จะเข้าในปาเลียเมนต์ได้ ต้องเป็นคนที่แนชูราลไลส์เป็นไทย ถ้าเป็นชั้นจีนมาแต่เมืองจีนฤๅบุตรจีนตามที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้เรากันไว้ไม่ให้เข้า จะเข้าได้แต่หลานจีน การที่ผิดกันอยู่กับเตอร์กี คือเมืองเตอร์กีในยุโรป พลเมืองเป็นชาติกริกเตอร์กเป็นผู้ไปจากเอเซียไปตีได้ เข้าครอบครอง เพราะฉนั้นกริกจึงเป็นสับเยกต์เตอร์ก ไม่เป็นคนต่างประเทศเข้าไป จึงมีอำนาจที่จะเลือกเข้าเป็นเมมเบอร์ ออฟปาเลียเมนต์ได้ทุกคน การผิดกันอยู่เช่นนี้ เรายังหายใจคร่อง แต่ถึงดังนั้นก็รวังให้ดีเถิด อินฟลวนส์มากนัก

เรื่องเนรเทศกรมหลวง(๑) แขงแรงดีมาก ค้นกฎบัตรกฏหมายไว้มาก โต้ทานกันได้ถึงที่ จะเป็นตัวอย่างดีต่อไป

สยามินทร์

(๑) สมเด็จพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมพระยาเทววงษ์วโรประการ


สวนดุสิต
วันที่ ๑๒ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

การที่เนรเทศสำเร็จได้ด้วยเหตุหลายอย่าง เพราะเหตุที่กฎหมายอินเตอแนเชแนลลอซึ่งใช้อยู่ทั่วไป แลเพราะเหตุที่เราได้ทำให้กับฝรั่งเศษเป็นตัวอย่างมาแล้ว อีกข้อหนึ่งนั้นที่กรมหลวงกล่าวว่า ..................................... ไม่เหมือนตัดสินลงโทษอย่างอื่น ส่วนข้อสำคัญที่จะต่อสู้กระทรวงนครบาลนั้น ข้อสำคัญก็เรื่องถามว่าทำไมจึงขังไว้เกิน ๔๘ ชั่วโมงผิดกฎหมาย กรมหลวงได้ยกเอาตัวอย่างที่เรากักขังคนฝ่ายศัตรูของฝรั่งเศสขึ้นแก้

อ้าย ๔๘ ชั่วโมงนี้ ไม่ใช่แต่เฉภาะฝรั่งเถรตรงของเราก็ชอบจะเอามาเขี่ย เพราะฉนั้นการที่ขังนิ่งไว้ไม่รีบจัดการพิจารณา ย่อมเป็นช่องมดปลวกจะขึ้น ข้อนี้และสำคัญมาก เวลานี้หากว่ายังจำนนอยู่ หาไม่ก็จะได้เขี่ยกันบ้าง จะทำอย่างไรก็เร่งทำเสียช้าไปน่าจะมีผู้ลอง

การเนรเทศถ้ามากเกินไปเห็นจะไม่ดี อ้ายที่เห็นว่าไม่สำคัญแท้จะปล่อยไปเสียก่อนบ้างก็ได้

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๑๓ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

จดหมายมาว่าจะไปเที่ยวทเลนั้นไปได้ แต่ต้องวางการทางนี้ไว้ให้ดี ขอให้พระยารองเมืองได้ทำการในน่าที่ให้เต็มที่ มีเหตุการอะไรให้ทำได้เหมือนเจ้าพระยายมราชอยู่

อนึ่งกำหนดลาเดือนหนึ่งนั้น มีความประสงค์อยู่หน่อยหนึ่งอยากจะไปเมืองเพ็ชรบุรีในข้างขึ้นเดือน ๘ เพื่อจะให้ประจวบเวลาบวชนาค ซึ่งจำเป็นจะต้องข้างขึ้นอ่อนหน่อย ข้างขึ้นแก่ก็ติดบวชนาคหลวงในกรุง เพราะฉนั้นวันเที่ยวถ้าหย่อนเดือนได้สักหน่อยจะดี

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๑๔ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

จดหมายมาด้วยเรื่องคำมิสเตอร์ลอซันกล่าวว่ามีผู้ปรารถนาอยากเป็นกงซุลนั้น อาจจะเป็นความจริง เพราะใครๆ ที่เป็น.......................... ก็เผยอหน้าขึ้นมาได้ ก็คงอยากเป็นกงซุล ทั้งนั้น เพราะฤทธิเดชกงซุลในบางกอกมันมาก แต่การที่จะสำเร็จได้เป็นกงซุลนั้นลึกล้ำ เพราะจะต้องมีสัญญาทางพระราชไมตรี.................กับไทยก่อน ไม่ใช่จะผลุบผลับตึงตังก็ตั้งกงซุลได้ เช่นประเทศอื่นๆตั้ง เพราะประเทศอื่นมีสัญญาทางพระราชไมตรีอยู่แล้ว
เพราะฉนั้นการปราป..................ถ้าปราปได้โดยไม่ต้องใช้อาวุธเป็นอย่างดีหาที่เปรียบมิได้แล้ว แต่ถ้าหากว่าจำเป็นจะต้องใช้อาวุธใช้ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นเหตุให้นำกงซุลเข้ามา ถ้าหากว่ารู้ว่าเราแหยงจะไม่ใช้อาวุธ จะกำเริบขึ้นอีกมาก ขอให้รวังในข้อนี้อย่าให้เจ้าพนักงานที่คิดเห็นว่าใช้อาวุธเข้าจะไม่ดี ไปพูดอวดฉลาดล่วงน่าให้..................รู้ ถ้ารู้แล้วใช่จะชมว่าเราฉลาด จะมีแต่ความกำเริบขึ้นเท่านั้น

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๒๒ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับจดหมายลงวันที่ ๑๗ บอกข่าวมีความสบาย แลส่งแตงโมมาให้นั้นได้รับแล้วขอบใจมาก กินเข้ากับปลาแห้งกับแตงโมอิ่มเดี๋ยวนี้ สวดอายุโฑได้

เรื่อง.........................ยังลือกันใหญ่ จนถึงวันที่ ๒๐ คลื่นไส้ขึ้นมาเลยหยุดเอง มี.......................................................บรรทุกเสื้อผ้าเครื่องทหารอย่างละมากถึง ๙๐๐ สำรับ แต่น่าจะมีอาวุธด้วยจับไม่ได้ ขึ้นทางเมือง.....................ว่าจะไปรบ......................มันโกหกให้ทั้งนั้น
คนเราตั้งแต่พระยารองเมืองไปก็เชื่อ เพราะไม่รู้ว่าเสฉวนมันอยู่ที่ไหน ไปได้ฤๅไม่ได้ จำหน่ายเสียเท่านั้นก็ตก เห็นว่าไม่ใช่อื่นเลยแล้วเป็นพวกจะไปช่วยขบถเมือง...................ถ้าเราเผลอไป อาจจะมีทหารไทยเข้าไปรบกับฝรั่งเศษ เราจะแก้ตัวงอมทีเดียว เดี๋ยวนี้ให้พระยาวรเดช(๑) ขึ้นไป คงจะได้ความตลอดมันก็หาเข้าของได้มากนักหนาเราควรจะรู้ แต่หากเราไม่รู้ร่องรอยเอง เมื่อรู้วิธีเช่นนี้แล้ว จะต้องรวังต่อไป การซึ่งเป็นเหตุจะให้กินแหนงกันในรหว่างเมืองต่อเมืองนี้อยู่ข้างร้าย ได้สั่งให้พระยารองเมืองเข้าใจชัดเจนแล้ว เล่าแต่เท่านั้นเถิด ปล่อยให้เที่ยวสบายเสียสักที ขยุกขยิกในใจจะผอม

สยามินทร์

(๑) เจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (แย้ม ณ นคร)


สวนดุสิต
วันที่ ๖ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

จดหมายมาว่าจะทำบุญวันเกิด จะมีการต้อนรับพวกจีนนั้นเห็นเป็นความดีอย่างเดียวไม่มีที่เสียหาย

มีความวิตกหนักใจด้วยเรื่องเก็บเงินค่าราชการ เห็นยังค้างมากนัก ถ้าจะคงเวลาจับไว้จับกันตั้ง ๑๐๐ ตั้ง ๑๐๐๐ จะประดักประเดิดมาก ถ้าจำเป็นจะเลื่อนๆเสียได้เห็นจะดี เพราะความจริงก็มีการที่ต้องติดหยุดชงักอยู่เป็นหลายวัน การที่ประชุม....................จะมีประโยชน์ในทางนั้น เรื่องเก็บเงินค่าราชการนี้พาลจะออกไม่ไว้ใจ สังเกตดูมีผู้ที่คิดอ่านแต่งหนังสือหนังหาให้..............
เช่นคำแปลที่พระยารองเมืองส่งมาฉบับหนึ่งเห็นตั้งท่าเหมือนกับขยับจะพูดโดยตรง ประกอบกับการที่หลวงโสภณ(๑) ประกาศเป็นทางเดียวกัน อย่างไรๆ.....................อยู่ในนี้ด้วย ไม่ใช่คิดประทุษฐร้ายต่อเราอย่างเดียว คิดเอาใจ..................ด้วย มีตัวอย่างที่ได้เห็นทำเป็นทีเอื้อเฟื้อมาอย่างไร ตามที่รู้อยู่แล้วนั้น บัดนี้ยังมีต่อไป ว่า................................คนก่อนถามเข้ามาถึงกงซุลถึงเหตุการที่บางกอกนี้อย่างไร ว่ารัฐบาล...................วานให้สืบเป็นการไปรเวต กงซุลมาพูดความอันนี้แก่ลูกชายเล็ก(๒)

การที่...........................อยู่นั้น เหตุว่ากะดูอันตรายจะมีแก่เมืองอินโดจีนได้อย่างไร เขาเห็น ๓ ทางๆ หนึ่งวิวาทกับเจ๊กทางหนึ่งญี่ปุ่น ทางหนึ่งอเมริกัน ในทางแรกกะกำลังได้ว่าจีนมีกำลังเท่าไร แลตีได้ขาเดียวทางตองกินแลปากอ่าว ฝ่ายอีก ๒ ชาตินั้นถ้าจะรับต้องรับเป็น ๒ น่า ๆ หนึ่งรับตองกีน น่าหนึ่งโคชินชีน ฝ่ายนิวตราลของ ๒ ประเทศ คือจีนแลสยามคงไม่พอป้องกันอำนาจทั้ง ๒ ชาตินั้น ฝรั่งเศษจำจะต้องแบ่งทหารออกเป็น ๒ ฝ่าย รักษาทั้งฟรอนเตียไทยแลฟรอนเตียจีน ในรายแรกนั้นสำหรับป้องกันโคชินชีน รายหลังสำหรับป้องกันตองกีนความคิดเขาเป็นเช่นนี้จึงเห็นควรทำไมตรี.....................แลให้มีไมตรีกับไทยด้วย.....................................เดี๋ยวนี้เรากำลังสังเกตดูว่า เขาจะเปลี่ยนใหม่ฤๅไม่ ยังไม่ปรากฏว่าเปลี่ยนแปลงอันใด จึงต้องถือว่ายังคงตามปอลิซีเดิมอยู่ เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาคงจะไม่ยุยงให้............ทำอันตรายใหญ่โต ซึ่งจะเป็นจลาจลเกิดขึ้นในเมือง แต่น่าจะช่วยจีนโดยทางใดซึ่งเห็นว่าเป็นธรรม พอที่จีนจะรีดเร่งเอาได้ ความวิตกสงไสยทางดำเนิร.........................มีอยู่ดังนี้ จึงได้เอาตาเพ่งดูรวังแผลในเรื่องขอลดเงินค่าราชการนี้ .........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.............................................เราควรจะคุมเชิงไว้ให้ดี

จะให้พรวันเกิดเห็นจะต้องส่งจากเพ็ชรบุรี อนึ่งขอบอกว่าสิงห์โต ๒ ตัวนั้นได้ราชการ ตั้งโต๊ะหมู่น่าพระไชยนวรัฐ เฉภาะชิ้นขาดอยู่ ๒ ชิ้น เอาสิงห์โตขึ้นเหมาะดี รูปสัตว์มันแก้ขัดได้มากเช่นนี้

สยามินทร์

(๑) พระโสภณเพ็ชร์รัตน์ (กี๋ โสภโณดร)   (๒) สมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๘ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๘

ถึง เจ้าพระยายมราช

ไม่ทราบว่ากรมรถไฟเขาหนักอย่างไร เมื่อมาถึงกลางทางมาถามสองหนสามหนว่าจะเสด็จกลับฤๅ ได้รับโทรเลขจากสเตชั่นบางกอกว่าเสด็จกลับพรุ่งนี้ ฤๅวันนี้ ได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว นึกแปลกใจว่าจะเกิดขลึกขลักอะไรที่บางกอก ก็ควรจะได้ข่าวนี่เงียบนักเลยทอดธุระ

เมื่อมาถึงที่นี่เข้ามีความเสียใจเป็นอันมาก ด้วยถนนราชดำเนินที่ตัดไปใหม่นั้น เขาทำรดับเท่าถนนราชวิถี ดูสูงไปมากแต่เพียงนี้ก็สูงกว่ารดับน้ำกว่าศอก ถ้าถมหินเข้าจะศอกคืบ ดูเป็นทางรถไฟมากกว่าทางเดิน

ข้อที่ร้ายกาจนั้น คือขุดดินข้างที่ในสวน ซึ่งเป็นส่วนวังพลอนไปหมด โดยยาวตามถนนราชดำเนิน ๑๘ เส้น ถนนดำรงรักษ์แลถนนราชดำริห์กว่า ๗ เส้น ฉเพาะขุดดินฟากใน คือในวังเป็นสระสี่เหลี่ยมๆ ติดต่อกันไปกว้างบ้างแคบบ้าง ที่แคบ ๗ วา ที่กว้างถึง ๑๑ วา ลึก ๓ ศอก ๔ ศอก เอาดินขึ้นถมถนนส่วนฟากข้างนอกที่ต่อกับท้องนาทำเป็นคลองดู เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจะใช้เป็นคลองก็ไม่ได้ไม่ทลุถึงกัน มีเอ็นขั้นน้ำขังไหลไปไหนไม่ได้ ตลอดรอบวังทั้ง ๓ ด้าน การที่คิดว่าจะก่อกำแพงนั้นเป็นอันเลิกขาด ก่อไม่ได้เพราะขุดเสียลึกหนักหนาแล้ว แต่เพียงจะถมก็ยากไม่มีดินจะถม จะเปิดเสียให้เป็นคลองคูทีเดียวก็กว้างถึง ๑๑ วาเหลือเกิน เป็นขุดคลองผดุง รอบบ้าน แลฉิบหายอีก สิ้นสติเหลือที่จะแก้ไขอย่างไร คนเราเกิดมามันช่างเลวทรามอะไรชาตินี้หาความคิดสักนิดหนึ่งไม่ได้ การเรื่องนี้เป็นการจำเป็นที่จะต้องฟ้องเป็นความ..............................
.....................................................................................................ขอให้คิดดูว่าถ้าบ้านศาลาแดงของเจ้าพระยายมราชพเอิญจะถูกทำถนนริมคลองฟากข้างใต้ เขาจะไปขุดเอาดินตามรอบๆ เรือนมาพูนถนนให้ในบ้านเป็นหลุมเป็นบ่อทั่วไปเช่นนี้ เจ้าพระยายมราชจะร้องฤๅไม่ เป็นการทำลายทรัพย์สมบัติกันจริงๆ ที่ไม่ใช่ที่หลวง เป็นที่ลงทุนซื้อด้วยพระคลังข้างที่ เสียเงินเสียทองเป็นอันมาก ทำให้พื้นที่เสีย โดยกว้างกว่าครึ่งเส้น โดยยาวเกือบ ๓๐ เส้น ซึ่งจะใช้อะไรไม่ได้เลย ไม่แต่เท่านั้น ยังจะต้องถม ไม่ถมทิ้งไว้ก็เป็นบ่อเกิดยุงแลเป็นที่ให้เกิดภัยอันตรายอย่างเดียวกันกับปฐมเจดีย์เช่นนี้ จะเป็นที่เดือดร้อนเพียงใดขอให้คิดดูเถิด เกิดน้อยใจขึ้นมาอยากจะเอาตึกที่ได้สร้างขึ้นชั้นหนึ่งแล้วถวายเป็นวัดฝรั่งเสีย แต่จะรอฟังความดูสักหน่อยหนึ่งก่อน ถึงจะแก้ไขอย่างไร ทีก็จะต้องเป็นคูเป็นรั้ว ซึ่งไม่ถาวรแลมั่นคงอะไรได้ ด้วยความจำเป็น
เมื่อมาเห็นปรากฏขาดคอมมันเซน จนชั้นฝรั่งเสียเช่นนี้แล้ว ก็ให้ท้อถอยในใจ ในการที่จะสร้างเรือนในกรงลิง ซึ่งไม่มีผู้ใดรู้จักได้รู้จักเสีย รู้จักดี รู้จักชั่ว เห็นจะเปลืองเงินเปล่า ถนนในวังยังมีมาก..................................................................................................................................................................................................................................ซัดกันไป ซัดกันมาป้วนเปี้ยน อยู่ในพวกเราเท่านั้น ครั้นจะให้คนแรกทำเอง ก็มัวแต่จะต้องลูบหลังกระจกเหมือนลิงส่องกระจก จะไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรได้ ทำแล้วแก้เล่าเปลืองเงินเปล่าๆ จึงได้เรียกพระยาวรพงษ์พิพัฒน์ให้หานายงานออกมาสัก ๒ คน ๓ คน ฤๅเขาจะเรียกเจ็กที่เคยใช้ออกมาด้วยก็ได้

แต่ถนนมากไม่ใช่น้อย ส่วนข้างน่าก็มาเป็นสายใหญ่ๆ พระยาวรพงษ์พิพัฒน์ต้องทำงานข้างบางกอกอยู่ด้วย จึงไม่ถอนคนมาได้กี่คนนัก ถ้าหากว่าเจ้าพระยายมราชแบ่งคนศุขาภิบาล เช่นพวกพระรัถยา ฤๅใครซึ่งเคยตัดถนนหนทาง กับนายงานสักคนหนึ่งสองคนออกมาช่วยเป็นนายด้าน ทำถนนสักสองสามสายตอนข้างนอก ตอนข้างในให้พระยาวรพงษ์พิพัฒน์ทำ การคงจะสำเร็จได้โดยเร็ว ถ้าหากว่ายังไม่มีถนนหนทางเช่นนี้ ไม่มีผู้ใดแลเห็นว่าความคิดจะทำอย่างไร ทั้งมีแผนที่ก็ดูไม่เข้าใจ เพราะสเกลไนยตาไทยเรามันเล็ก แลอะไรพ้นจมูกไปก็ไม่เห็น ถ้าสงเคราะห์แห่งกองศุขาภิบาลออกมาช่วยชั่วคราวหนึ่งได้ เช่นนี้จะเป็นที่ขอบใจหนักหนา

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๙

ถึง เจ้าพระยายมราช

เมื่อวานนี้ได้รับโทรเลขฉบับ ๑ วันนี้ได้รับหนังสือซึ่งพระยาเพชรฎา(๑) ถือขึ้นมาได้ทราบแล้วขอบใจเป็นอันมาก

ได้กะการปันน่าที่กันเวลาบ่ายวันนี้ บรรดาถนนทั้งใหญ่ทั้งเล็กให้กรมศุขาภิบาลทำฝ่ายเดียว แต่การปราบที่เกลี่ยดินขุดสระมากเหมืองเป็นน่าที่พระยาวรพงษ์ ปฤกษาเห็นกันว่าเช่นนั้นเป็นการสดวก

แต่การซึ่งจะทำที่นี่ผิดกับในกรุงเทพฯ ที่พื้นที่ดอนน้ำไม่ท่วมถึงกว่าครึ่ง ที่ซึ่งเป็นท้องนาที่อยู่ส่วนหนึ่งเคยเห็นน้ำขังประมาณสักครึ่งศอก แต่เข้าใจว่าไม่ใช่น้ำแม่น้ำ เป็นน้ำฝนขังคันนาเท่านั้น ถนนที่จะทำไม่จำเป็นจะต้องทำให้สูงเท่าถนนราชดำเนินที่ทำไว้เดี๋ยวนี้ ซึ่งสูงกว่าน้ำฝนขังนาอยู่ถึงศอกหนึ่ง น้ำปีเถาะก็ไม่ท่วม รดับดินหลังถนนสูงกว่าพื้นที่ซึ่งทำพระที่นั่ง ที่ได้ทดลองสอบสวนกันมาหนักแล้วว่าน้ำไม่ท่วมเป็นอันขาดนั้น เกือบศอกหนึ่ง ถ้าถมศิลาสูญกลางถนนจะสูงกว่ารดับน้ำ ๒ ศอก เป็นการหลงไปแท้ๆ ทำเหมือนทำทางรถไฟ คราวนี้ที่ในวังถ้าจะยกขึ้นให้พื้นสูงเสมอถนนจะเสียเงินหลายร้อยชั่ง แลไม่มีประโยชน์อะไรสักนิดเดียว จึงคิดจะไม่ถมพื้นขึ้นให้สูงเลย คิดแต่ทางน้ำให้ไหลไปลงเหมืองได้เป็นพอ คงจะถูกเงินลงได้มาก ในกระบวรตัดหนทางเข้าใจว่าสัก ๒ เดือนก็เห็นจะแล้ว แลเห็นเป็นรูปเดินเหิรได้ เว้นไว้แต่จะถมศิลาจึงค่อยทำค่อยไป ถ้าหากว่าได้เห็นตัวอย่าง บางทีเมืองก็จะทำได้ เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ได้เห็นเสียเลย แต่จะหาคนดูให้รู้ว่างานถูกงานถูกฤๅผิดก็ไม่มี น่าสงสารพระในวัดที่ผ่านมา ๓ วัด นึกจะขุด เอาดินที่ตรงไหนก็ขุดลงไป ข้างโบสถ์ข้างรามไม่ว่า สุดแต่ได้ดินแล้วๆ กัน พระครูญาณเพชรัตน์เป็นคนฉลาดแลพยายามมาก วันนี้เจ๊กไปขุดพรุ่งนี้แกถมที่ในลานวัดจึงได้ไม่มีหลุมบ่อเปรอะไป มีแต่สระใหญ่ ๑ ซึ่งไม่มีน้ำ เพราะแกไปขุดเอาดินในสระนั้นมาถมเสมอ กรมดำรงยืนยันว่าเมื่อรับเจ้าฝรั่งได้มาดูทำ มาถึงวัดยางเห็นเรียบร้อยดีอยู่ เพราะมิสเตอร์สบินโยเป็นผู้ทำ ภายหลังเปลี่ยนเป็นสาลามาทำจึงได้ขุดดินเลอะเทอะ แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น เพราะพระแกพยายามถมอยู่จึงไม่เห็นหลุมบ่อ พ้นจากวัดมาแล้วที่นาราษฎรขุดเป็นเหมืองยับไปตลอดหนทาง จะทำนาก็ไม่ได้ เพราะลึกแลมีแต่เอ็นดินบางๆ ถ้าเป็นเมืองฝรั่งแล้วได้เกิดความใหญ่ไม่ใช่ของเล่น........................
.................................................................................................................ไม่ได้มีความเวทนาปราณีเสียเลย..................................................................................................................ช่างไม่รู้สึกสมประดีกันเสียเลย เป็นที่น่าเสียใจยิ่งนัก พระยาวรพงษ์และพระยาเพชรชฎากำลังคิดกะการจะได้ลงมือตรวจตราตั้งแต่พรุ่งนี้ไป

มาเที่ยวนี้ไม่สบายด้วยเรื่องท้อง กินยาปัดมาใหม่ๆ เลยผูกกลัด ทำให้เมื่อยปวดเป็นอันมาก แล้วร้อนนักไม่มีฝนเลยเวลากลางวันที่กรุงเทพฯ เย็นกว่า ต่อเวลาดึกจึงมีหนาวเย็น แต่ต้นไม้งามมาก ได้ชัณสูตร์ต้นมะฮอกานีซึ่งปลูกลงไว้ในถังสิเมนต์เมื่อเดือน ๑๐ เวลานั้นสูงประมาณศอกเศษฤๅ ๒ ศอก เดี๋ยวนี้สูง ๕ ศอกเศษ ใน ๑๑ เดือนนี้สูงได้ถึง ๓ ศอกเศษ ต้นขนาดเล็กสูงประมาณคืบ ๑ ปลูกอยู่ในหม้อ เดี๋ยวนี้สูงถึง ๒ ศอกคืบ ๒ ศอกคับหม้อทั้งนั้น

อนึ่งถนนดำรงรักษ์ ถนนราชดำริห์ พระยามหาเทพเห็นว่าแคบจึงไม่ได้ลงต้นไม้เห็นว่าควรจะลงได้ ลงแถบเดียวอย่างเช่นถนนสนามไชย ซีกข้างกำแพงวังไม่ต้องลง ถ้าต้นไม้มีให้พระยามหาเทพออกมาปลูกเติมเสียอีก ถ้าปลูกแถบเดียวเท่านั้นเห็นจะไม่มากเท่าใด

สยามินทร์

(๑) พระยาศรีธรรมาธิราช (เจิม บุญรัตนพันธ์)


บ้านปืน เพ็ชรบุรี
วันที่ ๑๐ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

พรุ่งนี้จะเป็นวันทำบุญอายุครบ ๔ รอบ อันเป็นที่ผูกใจจำมั่นอยู่นั้น จึงขอจดหมายฉบับนี้ให้พร

ขอให้มีอายุยืนนานปราศจากโรคภัยอันเป็นที่ตั้งแห่งกำลังกายแลกำลังปัญญา ที่จะได้ทำการอันหนักสำหรับน่าที่ ให้สำเร็จตลอดได้

แท้จริงราชการที่เราทำอยู่ด้วยกันบัดนี้ เป็นการที่คนเกิดมาคู่บารมีกันจึ่งจะทำได้เพราะเป็นการยากการหนัก ซึ่งคนสามัญจะเห็นตามให้ตลอดได้ยาก ขอเสี่ยงบารมีของตัวเองให้พรเจ้าพระยายมราช ด้วยเดชความสัตยสุจริตปราถนาดีต่อประชาชนแลชาติภูม ขอให้พรทั้งปวงประสิทธิ์แก่เจ้าพระยายมราชด้วยความสัจอันกล่าวอ้างนี้

ได้ส่งซองบุหรี่มาเป็นของขวัญ ขอให้ไว้เป็นที่หมายน้ำใจแลเป็นสวัสดิมงคลด้วย เทิญ

จุฬาลงกรณ์ ปร.

(พระราชหัตถ์เลขา)


บ้านปืน เพ็ชรบุรี
วันที่ ๑๑ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๙

ถึง เจ้าพระยายมราช

ได้รับของซึ่งส่งมาให้ในวันเกิดนั้นแล้ว มีความยินดีขอบใจเงินค่าราชการเก็บได้ วันละมากขึ้นค่อยอุ่นใจ การ ๒ เรื่องที่ลงพิมพ์ทอยกันอยู่ทั้งว่าทั้งแก้ คือเรื่องเงินค่าราชการอย่างหนึ่ง เรื่องเงินค่าเล่าเรียนอย่างหนึ่ง ผู้ที่ลงว่าก็ว่าไม่จับใจกวนโมโห ผู้ซึ่งลงแก้ก็แก้ไม่ถูก มันช่างคันกระดุบกระดิบอยู่ในใจทั้ง ๒ เรื่อง ช่างอยากเขียนคอเรสต์ปอนเดนต์ส่งจริงๆ ต้องการความเรื่องละ ๓ น่ากระดาดโน๊ตเท่านั้นเป็นพอ ครั้งจะไปทำส่งก็ไม่รู้ว่าตัวเลขที่อ่านจะเข้าใจได้ฤๅไม่ ถ้าภาษาเราไม่ทำให้คนเข้าใจได้ จะกลับเป็นคอเรสปอนเดนต์ยืดยาวไป จึงได้นิ่งทนอยู่ด้วยความรำคาญเป็นอันมาก

ที่นี่ร้อนไม่สบาย แล้งแห้งผางทีเดียว คิดถึงสวนดุสิตแลพญาไท แต่ถ้าไม่ได้ออกมาครั้งนี้งานคงจะไม่แล้วได้ในเดือน ๙ ปีน่า แลจะเดินผิดร่องไปให้เสียการงานได้เป็นอันมาก เพราะฉนั้นการมาครั้งนี้นับว่ามาดูงานแท้ ไม่ใช่มาสบาย

สยามินทร์


วันที่ ๑๒ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

มีความคิดถึงได้ซื้อขนมสองอย่างส่งมาให้ ปลาทูไม่มีเขาว่าน้อยลงทุกปี มันข้ามไปเสียฝั่งตวันออก

พระยาเพชรชฎาได้ลงมือทำงานแล้ว

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๑๔ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้ยินหนังสือพิมพ์ว่า ..................ส่งตรามาแจก ได้ความว่าใครบ้าง ลงทุนเท่าไร ได้อะไร ขอได้สืบให้ได้ความ

รู้แล้วฤๅยังเรื่อง..................ไปว่าที่บวรเดช เป็นเรเปรเซนเตชันในเรื่องที่หยุดงานกันครั้งนี้......................................................................................................ขอให้มีความปรานีด้วยเป็นคอนติเนนต์เดียวกัน

ข้อความที่จะแก้ไขไม่ยากบากอะไร เพราะทางความของเราดี มีแต่เขาจะต้องบอกขอบใจ แต่ช่างเกิดความไม่พอใจเสียจริงๆ...................................................................................
.................................................................................................................................................
.................................................ขอให้ตรึกตรองให้จงดี

สยามินทร์


ที่ ๒๘/๖๒๐
สวนดุสิต
วันที่ ๑๔ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

ถึง เจ้าพระยายมราช

ด้วยเรื่องถนนเมืองเพ็ชรบุรีนั้น ตามที่จดหมายมาแลที่พูดกันวันนี้ ยังหาสิ้นกระแสความไม่

ถนนนั้นเป็น ๒ อย่างๆ หนึ่งถนนของเมือง คือถนนราชดำเนิน ดำรงรักษ์ แล ราชดำริห์ตัดแล้ว ถนนบริพัตรฝั่งตวันออกยังไม่ได้ตัด....................................................................
..........................................................................................................................................................
ส่วนพระยาเพชร์ชฎาแลพระรัถยาซึ่งขอเอาไปจากกรมสุขาภิบาลนั้น ทำถนนส่วนพระคลังข้างที่ คือในบริเวณวัง มีถนนสายใหญ่คือสนามไชย แลคันธนู ซึ่งยาวอยู่ใน ๑๒-๑๓ เส้น ทั้ง ๒ สาย นอกนั้นยังมีถนนสั้นๆ ฤๅเล็กๆ แคบๆ เป็นถนนในในสวนมีมาก แต่ถ้าจะรวมเข้าหมด งานทำไม่เกิน ๒ เดือนเป็นต้องแล้ว พอเป็นรูปเว้นไว้แต่การทำท่อแลถมศิลาซึ่งเป็นการภายหลัง ซึ่งมีคนอย่างดีทั้งพระยาเพชร์ชฎาแลพระรัถยา ๒ คนออกไปทำงาน จะแยกด้านกันทำได้เร็วขึ้น แต่งานไม่สมมือ เพราะคน ๒ นี้อาจจะทำการได้มากกว่านี้

คราวนี้ว่าด้วยฝ่ายที่บ้านเมืองทำ ถนนที่ทำเสียไว้แล้วซึ่งพรรณามายังหาที่สุดสิ้นเรื่องไม่ จึงขอตั้งคำอธิบายใหม่ ว่าที่ตำบลบ้านปืนนี้เป็นที่ดอนสันถานเป็นชายธง ข้างโตอยู่ริมน้ำเรียวเข้าไปในทุ่งเกินเขตรวังไปอีกมาก บนดอนนี้น้ำฝนไม่ขัง น้ำท่าไม่ท่วม สืบสวนการแต่โบราณแลตรวจสอบมา ๖ ปีแล้ว เพราะเหตุฉนั้นได้สร้างพระที่นั่งขึ้นบนหลังที่ตอนนั้น ไม่ได้ถมให้สูงขึ้นอีกเลย ด้วยสูงกว่ารดับน้ำแม่น้ำเวลาน้ำมากอยู่ศอกหนึ่งแล้ว

ส่วนในการทำถนนราชดำเนิน....................................ให้เอาระดับน้ำเท่าถนนราชวิถี คือถนนตั้งแต่แม่น้ำขึ้นไปถึงพระนครคีรีซึ่งน่าน้ำสูงกว่าน้ำอยู่ศอกหนึ่ง เป็นที่สงไสยว่าถนนสายนี้ บางทีระดับตอนบนเมื่อใกล้เขาขึ้นไป จะสูงกว่าข้างริมน้ำก็อาจจะเป็นได้ แต่หาได้ตรวจสอบไม่

ถนนราชดำเนินขวางข้ามถนนราชวิถีค่อนขึ้นไปข้างเขา อาจจะทำให้ระดับถนนราชดำเนินสูงกว่าถนนราชวิถี ตอนล่างได้อยู่ชั้นหนึ่ง แต่ถึงดังนั้นยังไม่พอแก่เหตุซึ่งปลายถนนราชดำเนินตอนข้างใต้คือเหนือน้ำ จะสูงมากเหลือเกินถึงเพียงนั้น

ได้ให้จับระดับดูปลายถนนราชดำเนินสูงกว่าพื้นที่ดอนที่ก่อพระที่นั่งศอกหนึ่ง สูงกว่าคันนา ๒ ศอก จึงเป็นสูงกว่าพื้นนา ๓ ศอก แบบที่เขียนไว้ขุดดินเป็นรางขึ้นพูนถนน เมื่อถนนสูงถึงเพียงนั้นแล้ว ดินก็ไม่พอ จึงได้ขุดดินท้องนาแลบนดอนที่ทำวังนั้น ตามแต่จะควักได้ ไม่เป็นรูปร่างอะไรมาพูนขึ้นเป็นถนน ที่มุมบังเวียนปลายถนนต่อถนนราชดำริห์ ซึ่งจะเป็นประตูวังได้ไปวัดหยั่งดู ผลที่ได้นั้นคือ ถนนสูงจากพื้นนา ๓ ศอก พื้นนาต้องขุดเอาดินขึ้นมาถมถนนอีก ๒ ศอก จึงเป็นอันลึกตั้งแต่พื้นขึ้นมาถึงหลังถนน ๕ ศอก เป็นป้อมแลเชิงเทินมากกว่าเป็นถนน คราวนี้ ถ้าจะทำกำแพงฤๅประตู ทำสูง ๘ ศอกเท่าที่สวนดุสิตนี้ จะแลเห็นเป็นกำแพงสูง ๓ ศอกเท่านั้น เรือกสวนรั้ววังลงไปจมดิ่งอยู่ถ้าจะเปรียบให้เข้าใจง่าย ก็เหมือนอย่างว่า ถนนซางฮี้ที่ผ่านน่าตำหนักพญาไท ยกขึ้นให้สูงเสมอแนวรั้วไผ่ รถใครไปมาแล่นอยู่บนยอดไผ่ที่สวนแลวังอยู่อย่างเช่นสนามแลตำหนักพญาไทดังนี้จะสนุกฤๅไม่ ถนนนี้สูงพ้นน้ำ ๒ ศอกเศษ เพราะไม่มีเลยที่น้ำจะท่วมคันนา................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

กรมหลวงดำรงได้ปฤกษากรมขุนสรรพสาตรที่จะแก้ไขกรมขุนสรรพสาตรคิดให้ขุดคลอง ๒ ข้างเอาดินมาถมที่ซึ่งถูกขุด ประมาณว่าเงินสัก ๕๐๐๐ บาท น่ากลัวจะไม่พอ ครั้นเวลาเช้าวันนี้เมื่อจะกลับมา ได้เลียบมาดูตามถนน เห็นเจ๊กได้ลงมือทำงานกำลังลงมือทลายคันนาลามเข้าไปในเขตรสวนวัง คิดว่าถ้าปล่อยให้ทำ คงจะรื้อดินคันนาในเขตรวังนั้นมาถมที่ซึ่งถูกขุต เท่านั้น ดินซึ่งจะเกลี่ยกลบรอยระแหงที่ในวังก็จะไม่มี จึงได้บอกอายัตไว้แล้วห้ามไม่ให้เข้าไปขุด

ส่วนถนนซึ่งพระยาเพชรชฎา พระรัถยาทำนั้น ถ้าจะให้มาต่อกับถนนราชดำเนินจะต้องยกขึ้นมาเป็นรูปช้อนหอย เพราะถ้าจะถมให้ได้ระดับถนนราชดำเนิน จะต้องขุดแม่น้ำอ้อม รอบวังให้เป็นคูลึกกว้างจึงจะมีดินขึ้นไปถมพอ แต่เดี๋ยวนี้ได้ให้รอไว้ยังไม่ให้ต่อ ให้ทำที่ราบไปก่อน เมื่อจะต้องงอขึ้นมาเป็นช้อนหอยจึงค่อยงอขึ้นมาต่อภายหลัง

คิดเห็นว่า ถนนราชดำเนินนั้น สูงไม่เข้าเรื่อง หาประโยชน์ก็ไม่ได้ งามก็ไม่งาม ถ้าหากว่าน้ำจะท่วมสพานอุรุพงษ์น้ำท่วมก่อน เพราะถนนราชดำริห์ระดับต่ำลงไปหาแม่น้ำ อีกประการหนึ่งเมื่อพิเคราะห์ดูด้วยตา เข้าใจว่าถนนราชดำเนินนั้นไม่มีระดับดูเหมือนจะแอ่นกลาง แต่จะเอาแน่ไม่ได้ทั้งนั้น ว่าแต่ส่วนตอนข้างบ้านปืน ถ้าจะถากหลังถนนลงไปเสีย ๒ ศอก ขนดินมาแต่งข้างวัง น้ำคงจะยังไม่ท่วมถนนเป็นแน่ ได้นึกว่าถ้าหากว่ามอบงานให้พระรัถยาทำ แยกออกไปเสียขาหนึ่ง พระยาเพชร์ชฎาทำขาหนึ่ง การก็คงจะสำเร็จ แต่จะสั่งปาวๆ ไปเปล่าๆ ไม่ได้ สอบสวนดูระดับให้แน่นอนเกรงจะพลาด...............................................................................................
.........................................................................................................................................................
...................................................................และสงไสยมากว่าฝรั่งนั้นจะเข้าใจในการทำระดับฤๅไม่ กลัวจะเป็นสักแต่ว่าฝรั่งก็ใช้ไปเชื่อไป จึงไม่กล้าจะสั่งลง ถ้าได้คนในกรมสุขาภิบาลไประดับเสียให้รู้แน่นอนสักคนหนึ่งจะดี เพราะเหตุฉนั้นจึงได้งดไว้ ให้กรมหลวงดำรงมาพูดกับเจ้าพระยายมราชเอง

ถ้าหากว่าจะหั่นถนนลงให้บางเช่นนั้นก็ต้องปลูกต้นไม้ใหม่สะใจพระยามหาเทพ อยู่บ้าง ออกจะไปทั้งทีจะมาบอกสักคำหนึ่งว่าถนนมันสูงเกินไปก็ไม่ได้ ไม่สังเกตสังกาอะไรเสียเลย เกณฑ์ให้ไปปลูกต้นไม้ใหม่ก็จะได้เข็ดดี
....................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๒๔ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ในชื่อข้าพเจ้าเองแลในพระนามพระราชินีแลเจ้านายผู้หญิงซึ่งออกไปอยู่ที่พญาไท ขอบอกกล่าวด้วยความเดือดร้อน อยากจะกล่าวแทนเจ้านายแลข้าราชการฝ่ายน่า ทั้งผู้มาเที่ยวเตร่ ว่าหมู่นี้เหม็นกลิ่นตามลมที่พญาไทแลตามถนน ด้วยเหตุที่ไร่ผักมากขึ้นทุกวันเวลาที่ลมเป่าเหม็นถึงต้องอุดจมูก เห็นว่าที่เหล่านั้นจะเสียหมดเพราะการทำไร่ผักมากขึ้นทุกวันไม่มีเวลาหยุด ยิ่งเมินๆให้ก็ยิ่งทำสกปรกมากขึ้น เห็นจะถึงเวลาต้องปราบเสียแล้ว หาไม่จะเหลือแก้ เพราะการเดินเร็วนัก วันนี้เป็นวันที่เดือดร้อนกันมาก

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๒๗ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

พอกะถนนวันนี้ก็พอได้สพานอีก นับว่าเป็นลาภของศุขาภิบาล คือสุขุมาลจะทำบุญอายุครบ ๕๐ ปี อยากจะสร้างสพานแทนการพิธีต่างๆ ประมาณว่าเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท โดยจะเกินไปบ้างก็ไม่ขัอข้องอะไร แต่กำหนดนั้นกระชั้น กลัวว่าถนนจะไม่ทันฤๅอย่างไร เพราะการทำบุญนั้นออกจะต้นปีในปีน่า ของแม่เล็กเป็นปลายปี

สพานนั้นเห็นว่าจะต้องยอมยกอันที่กะไว้ว่าจะย้ายไปทำให้ชายอุรุพงษ์นั้นเอง คือข้ามคลองริมถนนประแจจีน ตรงสพานเฉลิมหล้าในถนนพญาไทย ซึ่งกะว่าจะไปต่อถนนเป้านั้น เหมาะอย่างหนึ่งที่ๆ ดินตรงนั้นเข้าใจว่าเป็นของชายบริพัตรด้วย สพานที่จะทำให้ชายอุรุพงษ์ย้ายมาทำใหม่ตรงต่อถนนประทัดทอง โดยจะช้าไปก็ไม่ขัดข้อง เพราะถนนประทัดทองจะต้องมีสพานใหญ่ข้ามคลองมหานาค คงเร็วไม่ได้อยู่เอง น่าจะต้องเป็นสพานเฉลิมพระชนมพรรษา

ส่วนสพานที่จะทำสำหรับสุขุมาลแลชายอุรุพงษ์นี้ เป็นสพานตอนเดียวชั่วข้ามคลอง อาจทำให้งามได้ โดยไม่ต้องใช้เงินมากนัก ถนนที่กะวันนี้มีสพานหลายสพาน จะต้องนึกล่วงน่าไว้ ถ้ามีถนนไม่มีสพานไปแหงนเถ่ออยู่ก็ประดักประเดิดมาก

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๒๘ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ด้วยเรื่องจะจ้างมิสเตอร์กินีช่างเขียนมาเขียนพระที่นั่งอนันตสมาคม ในวิธีคิดค่าจ้างเป็นเหมาแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นกำหนดคงเหลือเงินไว้สำหรับเวลาเสร็จนั้น เป็นวิธีอันดีกว่าที่จะจ้างให้ทำไปแล้วก็แล้ว ไม่แล้วก็จนอยู่ ถ้าจะว่าข้างได้เปรียบเสียเปรียบในข้อสัญญากันแล้ว มีอยู่ก็แต่ถ้าเขาทำไม่แล้วใน ๓๐ เดือนตามที่กล่าวกันเดี๋ยวนี้เราต้องจ่ายเงิน ๘๐๐๐ บาทที่เหลืออยู่ไปอีกเดือนละ ๑๕๐๐ บาทจนกว่าจะหมด ถ้าหมดแล้วงานไม่แล้วก็เป็นสิ้นมือ แต่อ้ายการพูดเช่นนี้มันเป็นข้อที่ไม่เชื่อกันก็พูดยากอยู่เป็นธรรมดา เพราะความจริงนั้น ถ้าทำงานกันโดยสุจริตเขาทำยิ่งแล้วเร็วยิ่งได้กำไรมาก แต่ถ้าเป็นคนอย่างเช่นเฟโร ซึ่งรู้จักใจกันแล้ว ถึงจะเห็นหนทางอย่างเช่นว่านี้ก็เชื่อว่าจะทำจริงไม่ได้ ทั้งนี้ก็แล้วแต่เจ้าพระยายมราชจะเห็นควรเพิ่มเติมลงอย่างไรในข้อสัญญา แต่ข้อซึ่งจะจ้างช่างเขียนกินีผู้นี้อนุญาต

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๓๑ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ถามกำหนดวันเกิดสุขุมาลแล้วจะบอกลืม วันที่ ๑๑ พฤษภาคม มีวันที่จะทำสพาน ๙ เดือนเต็ม คงจะแล้วสำเร็จได้ นึกวิตกแต่เรื่องทำถนน เหตุด้วยเราจะต้องลงมือทำถนนต่อเดือนมกราคม เพราะเวลานี้เป็นเวลาที่เขากำลังทำนา ๔ เดือนก็คงจะแล้ว แต่มันจะเป็นโคลน จะถมหินเอาเรียบร้อยไม่ทัน จะต้องเตรียมตัวเสียให้พร้อม มีขัดข้องอยู่ด้วยเรื่องที่นาซึ่งถนนจะผ่านไป พระยารองเมืองจะต้องไปปล้ำปลุกกันอยู่ช้า ต้องให้เขาปล้ำไปเสียพลางๆ ถนนดวงตวันจะยังไม่แล้วก็ไม่เป็นไร จะต้องให้สายพญาไทที่จะต้องเดินรถข้ามสพานสุขุมาลนี้แล้วเสียก่อน แล้วจึงเร่งสายดวงตวันสำหรับให้แล้วสำเร็จในวันเกิดพระราชินีคงจะแล้วพอดีได้ สพานสุขุมาลนั้นให้ชื่อสพานพระราชเทวีเห็นจะดี จะเป็นที่เรียกง่าย แล้วจะส่งตราไปให้สำหรับทำพนัก

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๖ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ส่งคำแปลหนังสือพิมพ์....................มาให้ดูนั้นได้เห็นแล้ว ซึ่งรับไว้ด้วยนั้นดี เสียงมันพูดเป็นโก่งคออวดกันมากกว่าอย่างอื่น

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๖ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

เรื่องไฟฟ้าพระที่นั่งอนันตสมาคมที่จะคิดวางสายเสียแต่เดี๋ยวนี้นั้นดีแล้ว

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๘ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

......................ของท่านยมราชทำความอีก ลงพิมพ์เรื่องคนนมออกในรถรางสารพัตจะพูดได้ ว่าน่าอับน่าอายอะไรต่างๆ จนกระทั่งไทยไม่รู้จักรักกัน แต่ลงท้ายก็เรียกให้เจ้าพนักงานคอยเตือน ส่วนอ้าย "คนของเรา" ที่ไปเห็นเองทำไมไม่ว่าไรกันอ้ายนั่นก็ไม่เตือน ตัวอ้าย "เรา" นั่นเองก็มาลงพิมพ์ประจานออกยืดยาวเป็นสนุกสนาน มันไม่สมกันกับที่ร้องหาเจ้าพนักงาน ถ้าจะร้องหาเจ้าพนักงานให้ช่วยโขกหัวอ้าย "คนของเรา" ที่ไม่เห็นแก่ไทยด้วยกันไม่ตักเตือน แลเอาเอดิเตอร์ผู้แต่งลงพิมพ์ขังเสียสัก ๗ วัน ค่าที่ประจานกันเอง เห็นจะเป็นการสมควรแก่ที่เจ้าพนักงานจะทำได้

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๘ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

สมุดฟิฟติเยียส์ออฟนิวแยแปน ซึ่งได้สั่งให้หลวงวิศาลซื้อมาสำหรับแจกกัน บัดนี้ได้แล้ว จึงขอส่งให้สำรับหนึ่งเป็นกระจกซึ่งเราจะส่องดูตัวเราเอง ว่าเราได้เดินผิดเดินถูกมาแล้ว ประการใดแต่หลัง

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๘ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

หม่อมเจ้าเป้าในกรมพระราม เจ้าของสพานรามบุตรี อยู่ข้างศรัทธามาลาแขงแรง วันนี้นำสายสร้อยมาให้อีกสายหนึ่ง ช่วยในการปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพน จึงทำให้นึกถึงเรื่องเปิดสพานถ้าได้เปิดเสียเร็วๆนี้ได้ก็จะดี แกก็แก่แล้วจะได้ปลื้ม รอช้าไปจะเลยค้างอย่างเช่นสพานองค์อัจฉร ถ้าหากว่ากรมศุขาภิบาลจะช่วยกันกับกระทรวงวังจัดการให้มีงาน ถ้าเป็นที่ว่างควรจะปลูกโรงเล็กๆ พอพระจะสวดมนต์ได้สัก ๕ รูป เล่นยี่เกฤๅอะไรให้เสียสักหน่อย คิดไว้ว่าถ้าเวลาเย็นแกมานั่งทำบุญจะออกไปช่วย คงจะเป็นที่พอใจเป็นอันมาก ขอให้คิดการที่จะทำแลกำหนดวันเสียแกเป็นคนแก่ไม่ต้องมีข้างน่าข้างในอะไร

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๙ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

จดหมายนำหนังสือเรื่องเมืองญี่ปุ่นเป็นเวลาจอแจรีบจะส่งยังไม่ได้พรรณา ให้พิจารณาตลอดดังที่นึกไว้ว่าจะพูด หนังสือฉบับนี้หัวน่าในราชการแต่งกันคนละท่อน เคานต์โอกุมาเป็นผู้รวมข้อความที่เรียบเรียงลงนั้น ไม่ได้เขียนลงตามพงษาวดารตามเรื่องแต่งตามรูปปอลิซีของรัฐบาลในประจุบันนี้ ด้วยหวังผลจะให้เกิดอิมเปรชชันดีสำเร็จประโยชน์ ได้ผลในราชการภายน่าราวกับว่าแต่งหนังสือดิปลอมแมติคคอเรสปอนเดน สิ่งที่เสียที่ร้ายฤๅที่เบื่อเมากลับเอาพูดเป็นดีได้หมด ทำทั้งสง่าทำทั้งภูมให้ฝรั่งเกรงใจ แลอ่อนหวานให้ชมว่าดีด้วย จึงชมว่าเขาฉลาดจริงๆ ไม่ใช่ฉลาดคนเดียวมันฉลาดเป็นกองสองกองเช่นนี้ บ้านเมืองเขาจะไม่เดินขึ้นสู่ทางมีอำนาจมีประโยชน์เต็มอย่างไรได้

ถ้าหากว่าไม่ได้อ่านเรื่องราวเมืองญี่ปุ่นตลอดจนพงษาวดารตั้งแต่แรกเริ่ม ๔๐ ปีมาแล้ว จะแลไม่เห็นว่าความอัศจรรย์ที่หนังสือเล่มนี้ได้หลบหลีกละความเสียหายปลดเปลื้องได้หมด ราวกับว่าเมืองญี่ปุ่นจำเริญเหมือนเมืองฝรั่งมาแต่ดึกดำบรรพ์ เป็นแต่จับจัดถูกทางเข้าก็ดีขึ้นได้เร็ว แต่เมื่อได้สังเกตความมาตลอดยังนึกได้ ว่าสิ่งใดๆ ที่ญี่ปุ่นข้ามเสียไม่กล่าวในหนังสือนี้มีเป็นอันมากจึงเห็นว่าเขาฉลาดแต่ง การบ้านเมืองที่เขาเจริญขึ้นได้สำเร็จดังความประสงค์ เราอาจจะแลเห็นว่าเพราะผู้ที่เรียงหนังสือทั้งหลายเหล่านี้ได้มีมือในกิจการทั้งปวงเหล่านั้นทุกคน ดูน่า ชื่นใจ เมื่อนึกถึงของเราบ้างมันชวนแต่จะถอนใจใหญ่อย่างเดียว ความรู้สึกในใจเป็นเช่นนี้จึงได้สั่งมาให้ช่วยกันถอนใจใหญ่บ้าง

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๑๑ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

จดหมายมาด้วยเรื่องคิดจะแก้หลังคาพระที่นั่งอัมพรรั่ว ในเวลาที่ไม่อยู่ไปเมืองเพ็ชร์บุรีครั้งนี้เป็นการดีแล้ว เรื่องความร้อนของหลังคาสักเพียงใด ดูเหมือนไม่ใคร่มีใครสังเกตุ ผู้ซึ่งอวดตัวว่าเป็นช่างประเสริฐอย่างเช่นกรมขุนสรรพสาตร เชื่อว่ายังไม่รู้เหมือนกัน ข้อที่เรารู้ดีก็เพราะหลงเข้าไปนั่งน่าประตูในห้องเล็กจึงรู้สึก การที่คิดจะเอาเข้าของเก็บบนหลังคา เป็นพยานให้เห็นว่ากรมขุนสรรพสาตรได้เรียนตำราเรือนในเมืองฝรั่งมากกว่าได้รู้สึกเรือนในเมืองไทย เพราะหลังคาเช่นนี้เมืองฝรั่งมันอยู่เป็นห้องนอนได้ อ้ายเราอยู่ก็เลยสุกโดยความบ่มนั้นเอง

สยามินทร์


เพ็ชรบุรี
วันที่ ๑๕ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

มาตามทางร้อนเต็มที ฝนตกเป็นช่องเป็นเหล่า บางตอนก็เปียกเป็นน้ำนอง บางตอนก็แห้งเป็นผง ฝนปีนี้เห็นจะไม่เอาการ เป็นด้วยลม มีเมฆตั้งมาลมเฉภาะมีแรงเท่าใด ก็พัดส่งไปตกที่สุดแรงลม ลมเหมือนกันไปทุกวันๆ ฝนจึงได้ตกซ้ำอยู่ในที่แห่งเดียวจนขังนอง ที่อื่นแห้งเป็นผง คั่นกันมาเช่นนี้ ๒ ตอน จึงถึงเพ็ชรบุรีๆ นี้ถูกอยู่ในตอนแห้ง

งานที่ทำส่วนของเราด้านพระยาเพชรชฎาพระรัถยา ด้านพระยาวรพงษ์ทำงานดีน่ารักมาก เร็วเกินคาดเสียอีก สังเกตว่าทำได้เร็วกว่ากรุงเทพฯ เพราะเหตุที่ต้องถมดินไม่มาก แลเป็นด้วยชำนาญด้วย ให้การทีเดียวแล้ว

ส่วนงานถนนราชดำเนินนั้น มีความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ดูช่างเป็นการใหญ่หนักหนา เทศาผู้ว่าราชการเมือง กรมการผู้ใหญ่ยืนออกสพรั่ง พอรถผ่านถนนไปแล้ว มีคนถือสามเกลอประมาณ ๓๐ คนกระทุ้งพรึบๆ ดูคึกคักมาก ที่รอยหนูแทะก็ถมเต็มแล้ว พระยาวรพงษ์ถมดินต่อ แต่เมื่อว่ารวบยอดก็คงยังเสียใจอยู่นั่นเอง เหตุด้วยถนนนี้ทั้งที่แก้แล้วยังจะเป็นอนุสาวรีของความโง่ให้คนข้างน่าทักเสมอ เว้นไว้แต่คนที่เป็นลูกศิษย์วัดจะไม่แลเห็น แลจะโจทย์กันด้วยว่าท่านแก้ของท่านว่าดีแล้ว เมื่อก่อนนี้สูงกว่านี้ แต่ที่แก้แล้วเดี๋ยวนี้ ยังชเง้อสูงอยู่กว่าข้างฟากวังสัก ๒ ศอก ดูเหมือนตัดลงไปสัก ๘ นิ้วฤๅ ๑๐ นิ้วเท่านั้น ไม่หมดความขายหน้า นึกขึ้นมาละให้ขุ่น ถ้าหากว่าจะตัดใหม่อีกครั้งหนึ่งก็เท่ากับทำ ๒ หน ถ้าไม่ตัดก็เป็นมอนิวเมนต์ ถ้าตัดใหม่อ้ายแรงที่เสียไปแล้วก็เสียเปล่า ถนนก็จะไม่ได้ใช้ในเวลานี้ ถ้าจะทำเวลาเสด็จไม่อยู่ไม่มีใครบัญชา ตั้งแต่พูดกันมากับใครๆ เห็นมีคนเข้าใจแต่กรมหลวงนเรศ แต่แกก็เกรงใจน่ากลัวงานจะไม่สำเร็จ จะขอเปลี่ยนชื่อถนนราชดำเนินให้เรียกถนนอนุสาวรี

สยามินทร์

พลับพลาก่อฤกษ์ก็ดันลงไปปลูกในถนนวงกลม เลยทำไม่สำเร็จ เพราะพลับพลา เข้าไปขวางอยู่กลาง หมายว่าจะเอาไว้เป็นที่นั่งดูงานต่อไป เอาไว้ไม่ได้ต้องรื้อ

จ.ป.ร.


บ้านปืน เพ็ชรบุรี
วันที่ ๑๖ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

ถึง เจ้าพระยายมราช

ด้วยคนอ่อนย่อมแพ้คนแรง นี่เป็นการปรากฎแน่แท้ ซึ่งจะขอโทษเจ้าพระยายมราชก่อนที่จะกล่าว ไม่แต่กรมหลวงดำรงแลเจ้าพระยายมราช กรมหลวงนเรศที่สารพัดรู้เหตุผลที่ เกิดมาแล้วยังไร ข้อทุ่งเถียงกันอยู่ยังไร ใช่แต่เท่านั้น ถึงเขียนเส้นเซกชั่นดู ได้ความว่าข้อซึ่งชัด......................... ว่า .................. เอาระดับถนนราชวิถี จึงได้สูงไปนั้น ความจริงไม่ใช่ระดับถนนราชวิถี จับระดับตั้งแต่ถนนราชวิถีสูงขึ้นมาทุกที เพราะเหตุจะให้มารับถนนบรรใดอิฐ ซึ่งสูงกว่าถนนราชวิถีเป็นถนนทำใหม่เขาเข้าใจว่าเพราะน้ำท่วม จึงยกให้สูง คราวนี้ตั้งแต่ถนนบรรใดอิฐมาตั้งระดับสูงขึ้นตลอดมาจนถึงหัวแง่ จึงสำเร็จรูปเป็นอันได้ระดับสูงกว่าถนนราชวิถี ๒ ศอกเศษ เดิมแก้ว่ากลัวน้ำจะหักมาพัง ต้องยกไว้ให้สูงเหมือนหัวเรือจึงจะรับน้ำป่าอยู่ ครั้นเจ้าพระยายมราชออกมาถูกขู่ว่าถ้าลดลงไปมากน้ำจะท่วม จึงให้ลดแต่ ๓๐ เซ็นติเมเตอร์ ประมาณสัก ๘ นิ้ว ป่วยการแรงรูปถนนไม่ได้เห็นแปลกอะไรเลย งึ้มง้ำอยู่อย่างเดิม

ได้วานให้กรมหลวงนเรศตั้งกระสวนตัดใหม่ ถูกอ้ายฝรั่งขู่พักเดียวล้ม ว่ากำนัลชื่อไรก็ไม่รู้ ผู้ใหญ่บ้านชื่อไรก็ไม่รู้จนเดี๋ยวนี้ เป็นผู้บอกว่าน่าน้ำๆ จะท่วมพอปริ่มๆ ถนน แต่ชาวบ้านที่อยู่แถบนั้นเอามาถามทุกคน ว่าน้ำไม่เคยท่วมคันนาอย่างเตี้ย ถึงจะสืบยังงั้นได้ กรมหลวงนเรศยังไกล่เกลี่ยให้บากเสียให้เป็นบั้งๆ ตามคันคลองจะได้แลดูถนนเตี้ยลง คงทิ้งไว้ให้สูงเผื่อน้ำจะท่วมจริง ซึ่งถ้าท่วมได้แล้วยอมให้ถอดจากเจ้าแผ่นดิน ถึงปีเถาะก็เห็นจะเต็มที แก้แล้วแก้เล่าเดี๋ยวนี้ ยังสูงกว่าถนนราชวิถีศอก ๑ ถนนราชวิถีสูงกว่าคันนาคืบ ๑ เศษ ที่เป็นเช่นนี้อ่อนกว่าฝรั่งเท่านั้น มันก็ฉุดเอาไปได้

เมื่อสิ้นความุ่งหมายว่าจะสำเร็จเพราะเสนาบดี ๓ คน ...................................รูปถนนก็ปรากฎเป็นเกียรติเป็นยศดีจะปรากฏไปชั่วกัลปาวสาร จะเปลี่ยนชื่อว่าถนนอนุสาวรี คู่กับจังหันลมที่บางปอิน ไม่ยอมให้ชื่อราชดำเนิน เว้นไว้แต่จะแก้ให้หายขายหน้า

ในการที่จะแก้ให้หายขายหน้านั้น ได้ให้กรมขุนสรรพสาตรกับพระยาเพชฎาออกไปตัดเป็นตัวอย่างดูหน่อยหนึ่ง เอาระดับถนนราชวิถีดูพองามดี แต่จะหาคนทำไม่ได้ เทศาผู้ว่าราชการเมืองเป็นนายด้านแท้ นายช่างฝรั่งก็ใช้ไม่ได้ เพราะมันร่มเสียแล้ว ให้ทำก็คงครึ่งๆ กลางๆ จึงต้องขอนายชินซึ่งเคยใช้ประกันมาจากทางรถไฟสักวัน ๑, ๒ วัน พอจะได้ส่งระดับ ถ้าให้ฝรั่งทำมันอาจจะแกล้งให้ปลายถนนริมสพานน้ำท่วม จะได้ปรากฏได้เห็นจริง แต่ตอนบนนอกจากขุดคลองลัดให้แม่น้ำมาแทงถนนแล้ว ไม่มีอะไรจะพังจะท่วมให้เห็นจริงได้เป็นอันขาดการที่คิดนี้จะสำเร็จฤๅไม่สำเร็จไม่รู้

เมื่อวานนี้ได้ดูถนนราชดำริห์ถนนบริพัตร ออกดูงานแต่วันไปได้รอบทั่วถึง แดดไม่ สู้จัด แต่ไม่มีฝน

วันนี้แดดจัดอย่างแดดฝน แต่น่ากลัวจะไม่มีอีก นึกออกรำคาญไร่นาไม่ได้ทำเลย ทั้งนั้น คนจะพาโลว่าเพราะมาสร้างรั้วสร้างวังทำให้ฝนแล้ง แลคนไม่ได้ทำมาหากิน พวกหัวเมืองที่ถูกเกณฑ์มาทำถนนแล้วไปคราวหนึ่ง แต่ไม่สำเร็จ จะเหนื่อยมากกว่าคนอื่น เขาหัวเราะกันอยู่ว่าสุครีพจองถนน ความที่ใหญ่ถึงเพียงนั้น

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๒๒ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้เห็นหนังสือพิมพ์ลงเรื่อง เบรีเบรี พออ่านก็ฉิวรู้สึกกว่านี่เองที่เจ้าพระยายมราชว่าหมอไฮเอตจะแก้ พอจะเขียนหนังสือก็นึกได้ว่าหนังสือพิมพ์นี้เขาคัดจากรายงานประจำปีซึ่ง เจ้าพระยายมราชก็ส่งมาให้เมื่อก่อนจะมานี้เอง ยังไม่ได้อ่านจึงเห็นแปลกได้งดหนังสือไว้เมื่อวานนี้อ่านต่อถึงเรื่องโรคประจุบัน เลยออกจะหายโกรธ กลายเป็นเกิดความสังเวช...............................
..........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
กล่าวคือกวาลาลุมปอ แล แประ ซึ่งเขามีผู้คนมากมาเป็นหลักความสัณนิษฐาน ก็ลงว่าที่จะให้มนุษย์รอดจากไภยอันตรายก็ด้วยออกพระราชบัญญัติห้ามไม่ให้สีเข้าขาว ให้ไทยกินเข้านึ่ง ให้หมดประโยชน์ที่จะได้คือป้องกันคนไม่ให้ตายด้วยโรคบวม ซึ่งคิดดูป่วยการคนหนึ่งอยู่ใน ๒๐ บาทยิ่งกว่าที่จะได้ภาษีผลประโยชน์จากเข้าขาวได้ไม่เท่าเสีย ถ้ากินเข้านึ่งเสียแล้วก็นั่งอมยิ้มสบายเห็นว่าเจ้าพระยายมราชควรจะร่างพระราชบัญญัติเข้ามาหาฤๅในที่ประชุม ใครสีเข้าขาว กินเข้าขาวน่าจะเอาโทษเหมือนต้มฝิ่นเถื่อนกินฝิ่น

อีกอย่างหนึ่งนั้น อหิวาตกโรคเกิดเพราะน้ำเค็ม ตามที่สังเกตได้ว่าน้ำเค็มขึ้นมาน้อยโรคประจุบันก็น้อย จึงเป็นของที่ไม่มีอะไรจะแก้ นอกจากตั้งประปาเสียที่กรุงเทพฯ อหิวาตกโรคจะไม่มีเลยทั่วพระราชอาณาเขตร ข้อที่หัวเมืองเป็นอยู่แทบทั่วทุกหัวเมือง ตั้งแต่เหนือที่สุดจนใต้ ที่สุด เป็นเพราะน้ำเค็มที่ในแม่น้ำบางกอกเท่านั้น เมื่อปิดหูปิดตาเสียเช่นนี้ ไม่แลเห็นที่จะมีทางเอาแน่เอาจริงอะไรได้ ใส่ใจว่ากระไรก็พูดไปหาประโยชน์ไม่ได้เลย เมื่อเห็นเรื่องนี้เข้าก็ต้องทอดธุระว่าเรื่องเข้าต้องปล่อยให้แกเพ้ออยู่อย่างนั้นเอง เพราะเป็นเรื่องที่แอบแฝงลึกซึ้งยิ่งกว่าที่จะเห็นอหิวาตกโรคเกิดด้วยความร้อนได้
ที่นี่ไม่มีฝนเลย เดือดร้อนรำคาญเต็มที ไม่บอกข่าวบางกอกมาให้รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง กลับเข้าไปก็หายเงียบทีเดียว

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๒๓ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๒๓ แล้ว ไม่พูดถึงฝนสักคำเดียว จึงต้องเข้าใจว่าไม่มี ให้บังเกิดความร้อนใจอยู่เป็นอันมากด้วยเรื่องนี้

เรื่องรถรางเดินเลียบทางรถไฟลงไปเพียงถนนประทัดทองคงจะว่ากล่าวได้ตลอด แต่ที่คิดเลยลงไปปากน้ำเคียงไปกับรถไฟจะทำรถรางด้วยนั้นไม่สำเร็จแน่ เพราะมันชิงประโยชน์กันตรงๆ

เรื่องท่าตรวจเรือนั้นเข้ามาตรวจในแม่น้ำได้ แต่จะอุดหนุนว่าที่เกาะพระดีก็ว่าไม่ได้เหมือนกันด้วยไม่เคยไปเห็นชัดเจน

มีความร้อนใจด้วยเรื่องวัวที่จำหน่ายลดน้อยลงไปทันทีตามรายงานศุขาภิบาลนั้น รัฐบาลน่าจะต้องแลดูในเรื่องนี้ จำเป็นจะต้องคิดจัดบำรุงอย่างใด ไม่ใช่จะไม่รู้ว่าฝรั่งเขาบำรุง อย่างไร เคยเห็นเคยดูแต่มาแลดูกำลังของเราที่จะจัดใช้กันเข้า อึดอัดใจกลัวจะไม่ได้จริง ขอให้สังเกตว่าอ่านรายงานนั้นไม่ได้เลือกแต่ที่ไม่ชอบใจยกขึ้นติเตียน ที่ชอบใจในรายงานก็มีอยู่ เป็นการเตือนใจดีดังนี้

ครัวที่นี่จะต้องทำ ได้ให้ฝรั่งเขาว่ากันเองเหมือนกัน

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๒๔ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๒๓ กับโปรแกรม........... นั้นแล้ว ซึ่งได้ส่งโปรแกรมมานั้น เข้าใจว่าเป็นที่พอเพียงแก่ความปราถนาไม่ต้องกระสับกระส่ายถึงอยากดู เห็นฉบับแรกขึ้นชื่อ....... ซึ่งรู้เรื่องอยู่แล้ว จะได้อ่านต่อไป

เห็นหนังสือพิมพ์เข้ากันหลายหน แต่ปลงตกเสียว่าอยู่ไกลกัน จะกวนกันขยุกขยิกนัก อ้ายเสมียนโรงพักนั้นสมน้ำหน้าที่มันหาไม่ได้เท่าเจ๊กบริษัทสอาดแล้วจะบ่นเอาใคร หนังสือตากุได้ไปจดทะเบียฬพระยาศรีสุนทรส่งมาได้เห็น จะส่งไปให้กรมหลวงดำรงอ่านถึงต้องบอกให้เตรียมยาควินไว้ อาจจะจับไข้ขึ้นมาได้ในการที่อ่าน เล่มเล็กเงินตราแผ่นดินต่างๆ ในกรุงเก่า ๓๔ แผ่นดิน แกให้ไม่ได้ทำเงินอยู่ ๓ แผ่นดินเท่านั้น นอกนั้นบอกไม่ได้ว่าแผ่นดินตรานั้น ใช่แต่เท่านั้นศุโขทัยอีก ๔๖ แผ่นดินก็บอกตราได้ แผ่นดินพระนารายน์มีธนบัตร มันเจ็บแสบที่เงินและธนบัตรอะไรเหล่านี้มีอยู่พร้อมที่ตัวแกจะดูเมื่อไรก็ดูได้ เรื่อง...............นั้นเลวมาก ปดเท่าที่เขาจับกันแล้วในหนังสือพิมพ์นั้นเป็นของที่คนกลางตลาดจะจับได้ แต่ยังมีที่คนกลางตลาดไม่รู้ คือว่าจีนแต่ก่อนเรียกว่าจาม กรมอาษาจามว่าตกปราบ เจ้าแผ่นดินให้แขกไปปราบเจ๊ก จึงให้ชื่อว่ากรมปราบจาม แกไม่รู้จักชาติมนุษย์ชาติหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศถิ่นถานเหล่านี้ แลเป็นชาติหนึ่งซึ่งมีนับด้วยล้านอยู่เต็มไปตั้งแต่อินเดียจนตลอดมากระทั่งถึงฟาเธอรอินเดียทั่วทุกแห่ง คือพวกพระยาราชวังสรรค์นี้เอง เป็นเรื่องหลงที่เหลือเกินแล้วโกหกต่อ ปฏิเสธจนอาษาญี่ปุ่น ก็ว่าไทยสำหรับปราบญี่ปุ่น หาใช่กองทหารญี่ปุ่นไม่ ความจริงแกดูพงษาวดารไม่เข้าใจตลอด ฤๅอ่านแต่ ที่ชอบใจจะอ่านโดยไม่มีความรู้อะไรเลยในทางฝรั่ง แต่ถ้าได้อ่านพงษาวดารโดยความเข้าใจ แจ่มแจ้ง แล้วจะคิดเห็นผิดเช่นนี้ไม่ได้เลย รวบรวมใจความของเล่มใหญ่นั้น มีบอกเนื้อความ อยู่ในนั้น ก็เพียงอยากว่าข้าเจ้าเป็นลูกหลานเจ๊กเท่านั้น เพราะความประสงค์แกไม่อยากพูดอื่น ยิ่งกว่าพูดถึงท่านก๋งทำอุบอิบขมิบขมุบไปเสเอา....................มาตั้งที่แท้มันอยากชี้ข้าพเจ้าเอง

ฝนไม่มีเลย ตั้งพิธีกลัวจะเก้อ แต่ครั้นไม่ตั้งก็ดูไม่เอื้อเฟื้อ ผิดด้วยประเพณีแต่ก่อน จึงทำไปตามเคย หลายวันเข้าก็คงมีบ้าง

ที่นี่รูปพรรณสัณฐานออกจะเป็นสวนหงิดๆ พอเห็นร่องรอยขึ้นบ้างแล้ว การที่กะได้กะแล้วหมด กำลังรื้อย้ายเปลี่ยนแปลงให้ลงรูปที่จะเป็นไปใหม่ อีกสักวัน ๒ วันก็วางได้ ไม่ต้องคุม

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๒๔ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

ถึง เจ้าพระยายมราช

ได้รับโทรเลขบอกข่าวฝน อยากเป็นความจริงๆ ฝนขอที่นี่ตกให้ที่นี่ แต่น้อยมาชิงเอาไปตกเสียที่บางกอก แต่เป็นที่ยินดีที่จะกล่าวได้ว่าพิธีไม่เก้อ
งานพระยาเพชรฎาจวนจะหมดแล้ว แต่ต้นไม้พระยามหาเทพ ถนนราชดำริห์ควรจะลงได้ ถนนราชดำเนินกำลังตัดลงก็จะต้องแก้ไขปลูกใหม่ ขอให้บอกพระยามหาเทพด้วย

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๒๕ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ส่งคำแปลหนังสือพิมพ์มานั้นได้ทราบแล้ว สโมสร.............ไม่ได้พิจารณาหาความจริงว่า เขากดขี่อย่างไร ไม่ว่าที่เมืองเรา ที่อเมริกา เขาห้ามคนชนิดไรที่จะไม่ให้เข้า คนชนิดไรที่ จะให้เข้าเสียเงินมากน้อยเท่าไร ดูไม่รู้แน่ทั้งนั้น ฝ่ายเราที่จะรู้ได้รู้จากญี่ปุ่น ข้างจีนเองน่ากลัวจะไม่รู้กัน..............................................................................................................................แก้ยาก รวบรวมใจความอ้ายเรื่องทูตจะเร่งร้อนขึ้น

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๒๗ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๒๖ ส่งหนังสือพิมพ์..................มานั้นได้อ่านแล้ว เห็นว่า ผู้แต่งหนังสือฉะบับนี้ก็คนเดียวกันกับที่แต่งฉะบับแรก มันเกิดเป็นคอเรสปอนเดนต์กันขึ้น เห็นจะไม่มีน้ำหนักอะไรเท่าใด แต่คงเป็นเหตุให้เห็นว่า.........................................................................
..........................................................................................................ด้วยเราขัดขวางไม่ยอมให้ปฤกษาการงานอื่นๆ จึงได้หันไปขอตั้งแอสโซซิเอชันอย่างใหม่......................................................
...........................................เพื่อจะทำการให้ได้สมความต้องการ คือให้แรงแลให้กว้างกว่าโรงพยาบาลเพราะฉะนั้นจึงเป็นการจำเป็นที่เราจะต้องสกัดทางที่ขอตั้งใหม่นี้เอาไว้ให้อยู่อีกให้จงได้ ........................................................................ขอให้ถือว่าความคิดอันนี้มันเป็นเรื่องเดียวกันทั้งนั้น

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๒๗ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช
ได้รับหนังสือวันที่ ๒๖ แล้ว เรื่องไฟฟ้าซึ่งจะทำนั้นควรจะทำ แต่เรื่องจ่ายไฟฟ้าของเราอยู่ข้างจะฝั่นเฝือ....................................ควรจะดูตัวอย่างเรื่องจ่ายน้ำแข็ง แลจ่ายอะไรอีกซึ่งแต่ก่อนกรมปราบเคยจ่าย กรมทหารเรือได้ทำคอมโปรไมส์ตัดเลิกเสียเป็นอันมาก เป็นตัวอย่างดี เรื่องเช่นนี้รุงรังนัก แลเปลืองไม่มีบุญมีคุณแก่ใครด้วย เมื่อถึงหัวต่อที่จะจัดการเปลี่ยนแปลงใหม่ควรจะอิมปรูพขึ้นให้ดีได้

ที่นี่ฝนไม่ตกมากเลย หยดย้อยพรอยพร่างเป็นคราวๆ เท่านั้น แต่ท่าคอยข้างเหนือน้ำทิศใต้ บ้านใหม่ข้างใต้น้ำทิศเหนือฝนตกมากคักๆ ทีเดียว

งานที่นี่เดินมาก ถ้ามาเห็นคราวนี้ก็แปลกตา ยิ่งช้าอีกหน่อยหนึ่งจะแปลกมากขึ้น ถนนลดต่ำลงมาแล้วดูดีขึ้นมาก พระยามหาเทพเป็นฝีจะยังไม่หาย ถึงเวลาควรที่จะลงต้นไม้ถนนได้แล้วยังถนนราชดำริห์ฟากตวันออก แลถนนบริพัตรเป็นถนน ๖ วา ทั้งนั้น จะต้องปลูกต้นไม่เป็นแนวเดียวกันออกไป เห็นจะต้องเป็นมะฮอกกินี ถนนราชดำริห์ ๑๘ เส้น ถนนบริพัตร ๓๐ เส้นเศษ ต้องคิดต้นไม้เติมขึ้นจากจำนวนเดิมประมาณ ๖๐ เส้น แต่ถนนบริพัตรยังกำลังแก้อยู่ครึ่งหนึ่งแล้วครึ่งหนึ่ง ถนนราชดำริห์แล้วครึ่งหนึ่งถมไปตลอดแล้วยังไม่ถึงที่อีกครึ่งหนึ่ง คงจะแล้ว สำเร็จในเร็วๆ นี้

อนึ่งต้นปามแดงเมืองสายได้เอามาลองปลูกดูที่นี่ตั้งแต่แรกมาถึงเป็นเวลาเดือนหนึ่ง ที่ลงดินลองดูงามกว่าอยู่ในกระถางมากตั้งท่าแทงไปแรง เห็นว่ามันจะถูกอารมณ์กับกับพื้นแผ่นดิน จึงได้คิดจะปลูกรายในวงกลมน่าพระที่นั่ง จำนวนมากจะบกพร่องพระยาบุรุษจะไปขอที่เจ้าพระยายมราช ด้วยหวังใจว่าจะยังเหลืออยู่อีกบ้าง

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๒๘ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับจดหมายลงวันที่ ๒๗ ว่าด้วยเรื่องความ.....................ที่ศาลตัดสินนั้น ได้เห็นในหนังสือพิมพ์แล้ว การที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการหากิน พูดภาษาฝรั่งว่าไม่เซานด์ จะว่าภาษาไทยอย่างไรยังนึกไม่ออกมันตกอยู่ในถานทดลอง ทำสำเร็จๆก็ลเลิงมาประกอบกันหลายอย่างจึงได้เป็นเช่นนี้ แต่เป็นการโชคร้ายแก่พวกเราซึ่งเป็นชาติไทยอันจะห้ามความเสียใจไม่ให้เศร้าสลดด้วยไม่ได้ ที่จริงหาได้มีความอิจฉาพยาบาทเฉภาะตัวบุคคล ฤๅรักใคร่อุ้มชูฝ่ายหนึ่งจนเกินไป แต่ธรรมดาใจที่ปรารถนาดีเป็นส่วนกลางมันตั้งอยู่ล้างเสียไม่หาย จึงได้มีความเศร้าใจ มีความ ยินดีที่มีเจ้าพระยายมราชมาปรับทุกข์ด้วยคนหนึ่ง

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๒๘ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๒๗ ขอบใจที่ได้แก้ให้พระที่นั่งหายรั่ว วันนี้ฝนตกที่นี่มากถึงสามทอดใหญ่ จะว่าขลังก็ได้ ทุกวันๆ มาสวดคาถาไม่ได้เต็มเพราะพึ่งให้เล่า เติมขึ้นวันละน้อยๆ วันนี้เป็นวันสวดได้ครบตลอดคาถา เวรพระครูวัดศาลาเขื่อนถึงสัตหะลงมา แลตั้งอกตั้งใจซีเรีย-สมาก ขึ้นภควาทีหนึ่งยกมือท่วมหัวทุกๆจบ พอจุดเทียนแล้วเที่ยวเดินดูงานจนกลับมาพลับพลา พอขึ้นถึงพลับพลาฝนก็ตกซ่า เหมาะดีเต็มที พระยาบุรุษต้องการฝนเช่นนี้ถึง ๓ วัน จึงจะพอรับกันกับต้นไม้ที่ลงไว้นับพันต้นแล้วหน้าจ๋อยหงอยหงิมไปตามกัน เพราะดินก็ใหม่ๆ ยังไม่แน่น แล้วแห้งเป็นผง รดน้ำได้แต่ต้นละเล็กละน้อย ช่างไม่คณนายาไส้เสียเลย เพราะเราปลูกเวลานี้หวังฝนอย่างเดียวเท่านั้น ไม่สู้เชื่อถือในการแรงรดน้ำนัก การปลูกต้นไม้แล้วไปได้สักส่วนหนึ่ง ยังสัก ๖-๗ ส่วนเห็นจะถึง ๓ ปีจึงจะแล้ว แต่การทำถนนเดี๋ยวนี้เข้ามาทำตอนข้างใน การข้างนอกเกือบจะแล้วหมด ถมดินแล้วไปสัก ๖ ส่วน ยังสัก ๔ ส่วน ถนนข้างนอกตัดลงแล้วซีกหนึ่งดูงามขึ้นมากเดี๋ยวนี้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง น่าพระที่นั่งดูสง่าผ่าเผยดีอยู่

ได้ว่าไว้แต่แรกว่าจะทำบุญวันตายอุรุพงษ์ครบปี จึงให้เอากระดูกไว้ที่ราชฤทธิ์ยังไม่ส่งหอพระนาก วันตายตามสุริยคติต้องกันกับเฉลิมพระชนม์พรรษา จึงเป็นที่อึดอัดอยู่ว่าจะทำอย่างไรดี บัดนี้คิดตกลงใจว่าจะนับอย่างไทย เอาขึ้น ๖ ค่ำเดือน ๑๐ เป็นหลัก จึงคิดจะสวดมนต์วันที่ ๘ เลี้ยงพระวันที่ ๙ หาการมหรศพที่มีอยู่ในเมืองเพ็ชรบุรี หนังลครอะไรเล่นให้คนดู แลจะมีโปรยทานต้นกัลปพฤกษ์ พระสงฆ์จะใช้ที่เกณฑ์ให้ซ้อมสวดมนต์ขอฝนแกถูกเขี้ยวเข็ญเหน็จเหนื่อยมาก จะได้เป็นผลประโยชน์ค่าเหนื่อยเมื่อทำบุญเสร็จแล้ว วันที่ ๑๑ จะกลับเข้ากรุงเทพฯ คิดอยากจะเปิดสพานเสียด้วย แต่กรมนเรศยังไม่ยอม เหตุด้วยรูปและคำจารึกยังไม่มาถึง

การที่เป็นพระแต่งงานนั้นเข้าทีดีมาก ที่เจ้าพระยายมราชต้องเป็นบาเรียนถึงจะเหมาะที่จะเป็นผู้แต่งงานเช่นนี้

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๓๐ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

หนังสือวันที่ ๒๙ ฉบับหนึ่ง ทำให้เป็นที่พอใจเฟื่องฟูขึ้นทุกเรื่อง มีเหี่ยวแห้งอยู่แต่เรื่องล้มซวนกัน ซึ่งรู้ว่าเป็นโทษของเขาเอง แลเพราะเขาคิดเอาเปรียบรัฐบาล หากินไม่สุจริตด้วยก็จริงอยู่แหล่แต่ไม่หายเศร้าใจ เรื่องเลหลังนาเมืองธัญบุรี ได้สังเกตเห็นในหนังสือพิมพ์ เข้าใจเสียแล้วว่าหนังสือพิมพ์นี่มันมีคนพูดเป็นอยู่คนเดียวฤๅ ๒ คนเท่านั้น ไม่ใช่ทุกข์ร้อนของราษฎร เรื่องคิดถมคูให้เป็นที่ดอนเสียได้มากๆ นั้นดีไม่มีอะไรสู้ ขอให้ค่อยเพียรต่อไป การเขียนพระที่นั่งอนันตสมาคมได้ตรึกตรองกำลังหาพงษาวดารพม่าสอบ ได้พบนายเทียนแล้ว น่าจะได้ดีสักสองสามแห่ง ซึ่งคิดจะออกมาในการทำบุญนี้ก็ดี จะได้วางการงานอะไรไว้บ้าง ข้อสำคัญนั้นเรื่องควรจะดูงานเสียให้เข้าใจชัตเจนในเรื่องที่จะได้ถมศิลาต่อไป งานก็มากอยู่ไม่ใช่น้อย เห็นจะมีงานทำเกือบเต็มปีจึงจะแล้วสำเร็จหมด

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๓๐ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสืออีกฉบับหนึ่งเรื่อง..........................................................จะทำสัญญาอันเป็นปัณหาของวันอยู่เข้ามาให้ดู แต่ครั้นเมื่อเขียนลงไปเช่นนี้แล้วนึกกลับใจว่าหนังสือเช่นนี้ส่งมาเปล่าๆ เห็นจะไม่ดี ควรจะให้มีผู้ถือมา ซึ่งเชื่อได้ว่าจะไม่หาย เพราะฉะนั้นจึงงดไว้ ขออย่าให้นึกว่าหนังสือที่กล่าวนั้นได้หายเสีย

ฝนที่นี่ตกลักลั่น บ้านปืนไม่ตกอีกคึกคักเลย ดินจะกลับแห้งเสียหมดแล้ว เพียงสเตชันรถไฟโรงทหารตกคักๆ ทุกวัน ที่สุดจนตลาดกรุดริมถนนดำรงรักษ์ตกทุกวัน เว้นแต่ในบ้านปืนไม่ตกมันเป็นเหมือนอย่างเมื่อครั้งทำสวนดุสิต เคยโกรธว่าฝนไปตกเสียบางรัก มันจะเป็นด้วยทำปถวีให้กำเริบอย่างหนึ่งอย่างใด มีตัดต้นไม้เป็นต้นฤๅอย่างไร เครื่องดูดล่อฝนจะน้อยไป ชอบกลเป็นเช่นนี้ได้ถึง ๒ คราวมาแล้ว เพราะจะว่าที่เล็กก็ไม่ได้กว้างอยู่ มันจะมีโทษเหมือนอย่างกับตัดป่าแลหมู่ไม้ได้บ้างฤๅอย่างไร ไม่มีใครเขาโทษว่าเพราะทำงาน แต่ข้าพเจ้าจะโทษเองว่าน่าจะเป็นได้เช่นนั้น

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๓๑ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๓๐ ส่งสำเนาหนังสือพิมพ์จีนเมืองฮ่องกงมานั้นได้ทราบแล้ว ข้อความทั้งปวงเหล่านี้มันมีเจ๊กคนเดียวฤๅ ๒ คนที่คอยลงอยู่ ซึ่งได้ร่องรอยเสีย ว่าเป็นจีนฝุ่งหว่อฮีเช่นนี้ดี มิสเตอร์เวสเตนการ์ด(๑) รับจะคิดไปจัดการว่ากับอังกฤษนั้นดีมาก

เรื่องฝนเป็นอัศจรรย์เสียแล้ว น่าจะเป็นได้ด้วยเรื่องขุดแผ่นดิน ถางหญ้าตัดต้นไม้ ทำไม่ให้ฝนตกในที่นั้น ที่บ้านปืนนี้นอกจากวันฝนตกใหญ่แล้ว มีแต่หยดเปาะแปะ แต่ที่อื่นๆเช่นบ้านพระยาสุรินทรขึ้นมาจนถึงบ้านหม้อ ฝนตกที่เขากระใดอิฐมืดจนไม่ใคร่แลเห็นเขาถนัด รีบตาลีตาลานมาพลับพลาหมายว่าฝนจะตก หยดเปาะแปะให้สองสามเปียะก็หยุด ชอบกลจริงๆ ขอให้จำไว้สังเกตไปภายน่า ได้เคยเห็นมาเมื่อครั้วทำสวนดุสิตครั้งหนึ่งเช่นนี้ น้ำเห็นจะไม่มากไปจนข้างแรมเดือน ๑๐ แลเดือน ๑๑ ปีนี้เป็นไม่ได้เล่นเรือยนต์ทางเพ็ชรบุรี นานเข้าก็คิดถึง ได้พูดถึงเจ้าพระยายมราชอยู่เนืองๆ ไม่รู้ว่าเหตุผลอย่างไรมันจึงมีเรื่องที่ต้องเกี่ยวข้องเสมอ ที่สุดอย่างต่ำจะติเตียนว่าคนไทยไม่รู้จักทำมาหากิน ก็ให้อยากจะว่าเจ้าพระยายมราช มีเรื่องเจ๊กมารับเหมากรมนเรศ เป็นราคา ๖๐ บาท แล้วเอาไปจ้างไทยอีกต่อหนึ่ง ๒๐ บาท เจ๊กเอาไปกินเสีย ๔๐ บาทเฉยๆ กรมนเรศน้อยอกน้อยใจถึงไปต่อว่าทำไมไม่มารับเอง ได้คำตอบว่าเข้าไม่ถึง ซึ่งแปลว่าขี้เกียจเท่านั้น มีเรื่องนี้ก็เป็นเหตุให้คิดถึงเจ้าพระยายมราชจะหาว่าหมิ่นประมาทฤๅอย่างไรก็ตาม ทีจะเป็นด้วยเคยปรับทุกข์กันอยู่เสมอ มันจึงได้นึกคิดไป

สยามินทร์

(๑) พระยากัลยาณไมตรี ที่ปฤกษาราชการแผ่นดิน


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๑ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๓๐ ว่าด้วยเรื่อง......................................................เห็นว่าตามทางที่ได้พูดนั้นไม่มีที่เสียเลย เป็นสง่าผ่าเผยดีมาก เป็นที่ชอบใจแล้ว บางทีก็จะราให้ช้าการลง ไปได้ ตามเสียงพระยารัษฎากล่าวว่า......................ในสเตรตเซตเตอลเมนต์ก็ไม่แข็งแรงอะไรขึ้น ออกจะโทรมๆ ลงไป บางทีจะสบเวลาที่เหมาะก็จะเงียบไปได้

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๑ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือบอกส่งของที่ตลับฝากมาให้นั้น ขอให้ช่วยบอกขอบใจด้วย มีความเสียใจที่จะบอกว่าฝนไม่มีตกอีก แต่น้ำขยับขึ้น แต่ถึงนั้นยังไม่เท่าเมื่อแรกมา ต่ำอยู่อีกนิ้วหนึ่ง

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๒ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ฟังเล่าถึงตลับคิดการทำสวนที่บ้าน ขอยืนยันว่าความคิดถูกถ้าหากว่ามีคนไทยเราพยายามทำให้ได้ตามความคิดไทยเราจริงๆ เช่นนั้น จะเป็นประโยชน์แท้จริง ทั้งสบายทั้งบริบูรณ์ จะว่างามก็งามได้ ถ้าหากว่าเขาทำของเขาสำเร็จ ให้รับกันคนละด้าน เวลาไปเยี่ยมเห็นจะนั่งด้านตลับ ด้วยทีจะกินอะไรอร่อยกว่าด้านท่านยมราช ลงทำงานนัวเช่นนี้แล้ว เวลาเย็นๆ จะเลยแวะเข้าไปดูสักวันหนึ่ง ตามหนังสือฉบับนี้ดูการงามมีมากเห็นจะเหน็จเหนื่อย การทำบ้านเป็นเครื่องปลดเปลื้องความเหน็จเหนื่อย เป็นกิจวัตรอันหนึ่งซึ่งถ้าให้เกิดความสบายก็เหมือนกันกับได้เล่นลครผู้หญิง ฤๅเล่นโขนผู้ชาย แต่ใจไม่ร้อน เสียเงินก็เสียเหมือนกัน แต่ไม่สูญ ยังมีสิ่งซึ่งแลกไว้ได้ เห็นว่าเป็นธรรมิกอุบายซึ่งจะหาความสำราญใจ เพราะเกิดมาเป็นคนมันต้องมีได้มีเสีย ให้ดีใจเสียใจอยู่ร่ำไป ตามกิเลศของมนุษย์ ซึ่งยังไม่สงบรงับได้ ความรู้สึกใจเช่นนี้จึงได้ทำนาพญาไทแลทำที่นี่สำหรับเป็นเครื่องเพลิดเพลินใจเช่นนั้น ต่างเล่นโขนเล่นลคร ถ้าหยุดนิ่งก็ตายเหมือนตากุหลาบเหมือนกัน

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๒ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

เหตุไฉนหนังสือที่มามาเคยตอบแล้วทุกที จึงมาเหลือลอดอยู่ฉบับหนึ่งหยิบขึ้นอ่าน เป็นหนังสือลงวันที่ ๒๕ แลเข้าใจว่าตอบแล้ว แต่หนังสือนั้นพเอินหลงอยู่ไม่ได้เก็บ มีข้อความในหนังสือนี้ที่ควรจะยกขึ้นเป็นปัญหาพูดเล่นฝ่ายหนึ่ง ในหนังสือฉบับนี้เจ้าพระยายมราชกล่าวว่า ตากุ "ที่อายุแกยืนมาได้ถึงเพียงนี้ก็คงจะเป็นด้วยแต่งหนังสือเช่นนี้ ถ้าหยุดบางทีก็จะจบ" ดังนี้จึงปรากฏขึ้นเป็นปัญหา ว่ากิจการอันใด ซึ่งทำให้มนุษย์มีอายุยืนต้องเป็นกิจชอบที่ควรประพฤติ ถ้าเช่นนั้นการกุมิเป็นกุศลธรรมฤๅเพราะเป็นอุปการะให้อายุยืนได้ เห็นจะพอเป็นปัญหาที่จะโต้ตอบกันในธรรมสากัจฉา

อนึ่งมีข่าวที่จะบอกว่า ได้รับรายงานทุกวัน ว่ากรมขุนสมมติได้ยกกุฏิขึ้นแล้ว รูปร่างเหมือนกุฏิวัดสิงห์ทีหลังได้ข่าวอีกว่า บัดนี้ยกหอฉันขึ้นอีกแล้ว ว่าเหมือนหอฉันวัดอีก เจ้าของแกเรียกของแกว่าหอนั่ง กำหนดจะขึ้นเรือนวันจันทร์นี้ จะนิมนต์พระมาฉันรูปหนึ่งแล้วเทศน์ด้วย ซึ่งให้คนทายว่าจะนิมนต์ใครไม่มีใครทายถูก คือแกนิมนต์พระครูสุวรรณมุนี เพราะเป็นฝ่ายวิปัสนา มีความลับซึ่งที่นี่ปิดกันกวดขัน ได้วานให้กรมขุนสรรพสิทธิจัดหาเครื่องขึ้นกุฏิ จะถวายในวันนั้น ไม่ให้รู้ตัวเลยเจ้าพระยายมราชมีอินเตอเรสต์อยู่ในเรื่องนี้ จึงบอกให้รู้

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๓ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๒ นี้แล้ว ข้อความตามในหนังสือนี้ใจความเดิมเลื่อนไปเสียจากท้องเรื่องบ้างจนเป็นความคิดที่ออกจะยุ่งเหยิง ทำให้เจ้าพระยายมราชมัวมนไปได้มาก แต่เป็นเรื่องซึ่งจะเขียนลงเป็นหนังสือสั้นๆ ให้เข้าใจดีเหมือนพูดด้วยปากไม่ได้ความคิดกรมหลวงเทววงษ์ใกล้ข้างทางที่ถูกมาก แต่ไม่ได้ช่วยกำลังเจ้าพระยายมราช คิดอ่านว่าจะเดินทางใด จึงจะให้ได้สมประสงค์ดังคำที่กล่าวในหนังสือนั้น เหมือนอย่างกับบอกทุกข์ สมุทัย นิโรธ แต่ขาดมรรค ข้างความคิดจรูญนั้นเป็นเถรตรง................................................... ใช้ความคิดซึ่งอาจจะเป็นได้จริงตามทางปัญญาที่เห็น

การเรื่องนี้เมื่อว่าโดยย่อ เราไม่ยอมให้ตั้งโซไซเอตี จะเรียกว่ากระไรๆ ก็ตาม ดิสคัสเรื่องปอลิติก ฤๅเกี่ยวข้องในการปอลิติค เรามีอำนาจอยู่แล้วที่จะห้ามได้ตามกฎหมาย...................
.................................................. นอกจากการทำบุญแชริตีฉันใดทำไมเราจะห้ามไม่ได้ โรงพยาบาลนั้นมันยังบอกข่าวเป็นเอเย็นต์เว้นไว้แต่จะประชุมกันปฤกษาการงาน อย่างเช่น.............. ปราถนาจะตั้งเดี๋ยวนี้ไม่ได้ จึงได้ปราถนาจะตั้งใหม่

เข้าใจว่าความคิดอันนี้มีต้นคิดไม่กี่คนๆ เดียวฤๅ ๒ คนๆอื่นก็คลอนแคลนอยู่เช่นนั้น ถ้าคิดอ่านจับหัวให้ถูกโยกๆ พอให้ถอยเสียอ่อนกำลังลงแล้ว จะสงบไปได้สักคราวหนึ่ง พอเราได้คิดจัดการวางทางเสียให้เรียบร้อย ข้อความที่พระยารองเมืองแจ้งเจ้าพระยายมราชนั้น มันใกล้ๆกับที่จะง้างไว้ให้รอชงักไปได้คิดอ่านคลำลู่ทางไว้ให้พร้อม กลับเข้าไปได้ปฤกษากัน

ข้อความที่ได้คิดย้ายกรมท่าซ้ายไปไว้กรมเมือง ด้วยความปราถนาอย่างไร เจ้าพระยายมราชทราบชัดแล้ว แต่ไม่ใช่ทางซึ่งจะเอาไปบอกแลกกับ................... คิดจะตั้งนี้ เพราะที่หมายผลมันต่างกัน ถึงจะบอกให้รู้ก็ไม่พอใจ จะจืดเสียเปล่าๆ ถ้าหากว่ารั้งเรื่องความคิด..........ครั้งนี้ให้สงบลงเสียครั้งหนึ่ง เราคิดตั้งการตามความคิดเดิมให้เป็นส่วนหนึ่งต่างหากจะเรียบร้อยดีกว่า

ขอให้รวังกิริยาอย่าให้สำแดงความขุ่นมัว ให้..............เห็นเป็นเราวิตกวิจารณ์มาก จะกระพือมากขึ้น ฟังดูที่พระยารัษฎา....................ในสเตรตมันเซาแล้วทั้งนั้น ที่มันคึกคักขึ้นในบางกอกจะเป็นด้วยมีด้านพายเข้าไปกวน ขอให้รวังเหลี่ยมคูให้ดีอย่าให้มันเห็นยู่ย่นได้ ไม่เท่าไรก็จะได้พบกัน

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๔ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๓ แล้ว ได้ถวายของขึ้นกุฏิกรมขุนสมมตวันนี้ เพราะจะขึ้นพรุ่งนี้ ที่นี่เมื่อคืนนี้น้ำขึ้นมาก เพียงสัก ๔, ๕ ชั่วโมง ขึ้นตั้ง ๒ ศอก แต่ยังไม่ถึงน้ำใหญ่ประจำปีก่อนที่น้ำจะขึ้น อากาศมืดครึ้มฝนตกปรอยๆ มา ๒ วัน เห็นจะตกข้างใน ซึ่งฝนไม่ตกมากที่บ้านปืนก็ยังขันอยู่นั่นเอง

ขอให้ดูหนังสือพิมพ์วันเสาร์จ่าน่าว่า The beri - beri problem จะโปรดอย่างไร

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๕ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๔ ฝนเห็นจะน้อยทั่วพระราชอาณาเขตร น้ำที่นี่มามากเป็นน้ำปีแล้ว แต่ยังต่ำคราบต้นไม้ที่เคยท่วมน่าเรือนอยู่ปรามาณสัก ๒ ศอก กำลังขึ้นอยู่ ได้เปิดเหมืองตามลำรางริมถนนดำรงรักษ์ น้ำเข้าในลำรางเต็ม แลนองนาที่ลุ่มแล้ว แต่แถบข้างใต้ยังไม่ได้เปิด เหตุด้วยใกล้สพานอุรุพงษ์กลัวน้ำจะกัด น้ำยังไม่เดินตลอดรางริมถนน เพราะขัดเขินอยู่ที่ตอนดอนตรงที่จะปลูกพลับพลาสูง วันนี้ได้ส่งให้เฉาะดินให้น้ำเดิน นาดอนน้ำยังไม่ลบ ได้ให้เตรียมตัวไว้ว่า ถ้าพอเห็นน้ำขยับจะทรุดเมื่อไร จะปิดปากเหมืองไว้เอาน้ำเลี้ยงต้นเข้า ถึงว่านาเหล่านี้จะได้ลงมือช้าไป คงจะให้ได้ประโยชน์บ้าง ที่จริงเมื่อคิดไปก็น่าเล่น ดูเหมือนการจะบำรุงไม่สู้ยากนัก เว้นไว้แต่จะไม่มีน้ำพอท่วมท้องนานั่นแลจนอยู่

กำลังคิดที่จะตั้งจำนวนเงินซึ่งเหลือจากเขาช่วยในการศพชายอุรุพงษ์ ยกขึ้นเป็นฟันด์สำหรับบำรุงการช่างแลการทำมาหากินในเมืองเพ็ชรบุรี ซึ่งคิดว่าจะให้มีการแข่งขันในเวลาเสด็จทุกปีจะสำเร็จมิสำเร็จไม่รู้กำลังคิดอยู่ เป็นเวลาชอกช้ำรส่ำสายใจด้วยได้เห็นความทรุดโทรมของคนไทย แต่เพ็ชรบุรียังมีเชื้อสายอยู่บ้าง จึงอยากจะบำรุงไว้ ตัวอย่างนั้นคือ เช่นประสมโค เกวียน ปั้นหม้อ ทอผ้า สานใบตาล เช่นนี้เป็นต้น จะให้รางวัลผู้ซึ่งทำดี เพื่อจะให้มีผู้พยายามเลี้ยงแลทำให้มากขึ้น ทุนนั้นจะฝากไว้ในที่ซึ่งให้เกิดประโยชน์เอาดอกเบี้ยมาเป็นรางวัลประจำปี

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๕ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้รับหนังสือลงวันที่ ๔ ส่งร่างหนังสือ................................มานั้น เห็นว่าใช้ได้แล้ว มีแก้ไว้บ้างเช่นนี้ดี

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๖ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

จดหมายลงวันที่ ๕ เรื่องไปเจรจากับทูตฝรั่งเศษ เรื่องจีนขอตั้งเซียงหวย ส่งร่างหนังสือมาด้วยนั้น เห็นว่าตามการที่จัดแลร่างหนังสือที่จะมีไปนั้นดีนัก ถ้าเราจัดการเข้าใจเสียได้กับผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศเช่นนี้ ตัดความรแวงซึ่งว่าจะเป็น....................อย่างหนึ่ง ในตอนท้ายหนังสือฉบับใหญ่ ซึ่งได้เขียนแสดงความเห็นเรื่องนี้ไปนั้นได้ เราคงจะโต้ทานแต่ลำพัง.............. ซึ่งควรจะเดินโดยมั่นคง ไม่ยอมอย่างกวดขันได้ถนัด ถ้าจะจัดการกับที่รายอื่นๆ อีกได้ก็ควรจัดหนังสือฉบับนี้ให้มีไป

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๗ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

จดหมายส่งตัวอย่างสพานราชเทวีมานั้น ได้ให้เจ้าของดูเป็นที่พอใจแล้ว ได้ส่งกลับคืนออกมาให้ทำ

สยามินทร์


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๗ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

หนังสือวันที่ ๖ ได้รับแล้ว เมื่ออ่านหนังสือพิมพ์ฉุน แต่นึกว่าไม่ใช่น่าที่ๆ จะฉุน เอาไว้ฟังเจ้าพระยายมราชจะรู้สึกฤๅไม่ จึงได้อมยิ้มออกมาได้ มันเห็นเราโง่เขลาเสียเหลือเกิน

วันนี้ได้ไปที่ตำหนักอินทาราม กำลังตระเตรียมจะรับอาคันธุกะกั้นม่านไว้แล้ว ซึ่งเจ้าพระยายมราชมาอาไศรยที่นั่นเข้าทีดีนักของแกก็ดูสบายอยู่

สยามินทร์


บ้านปืน บ้านเพ็ชรบุรี
วันที่ ๙ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

ได้ฝากหนังสือตอบมกุฎราชกุมาร ขออย่าให้ลืมเรื่องไฟฟ้าดวงใหญ่ที่จะรายถนนราชดำเนิรตอนในเป็นสำคัญกว่าอื่น ถ้าสำเร็จได้จึงจะดี มีความปรารถนาอยู่อีกอย่างหนึ่ง เรื่องอยากแก้ตัวมด แต่กลัวมันจะกินทุนมากนัก จะทำไม่สำเร็จ เอาไว้ไปคิดที่บางกอก

เรื่องที่มุมถนนใหม่ให้ตกลงกันเสียนั้นดีแล้ว ออกหนักใจจะทำทันฤๅไม่ๆ แน่ มีเวลา ๔ เดือน กลัวจะต้องรื้อ แย่งกันข้างในไม่สำเร็จได้ ได้ฝากหนังสือถึงพระยาศุภกร(๑) ฉบับหนึ่ง

สยามินทร์

(๑) พระยาศุภกรบรรณสาร (นุ่ม วสุธาร)


บ้านปืน เมืองเพ็ชรบุรี
วันที่ ๑๐ กันยายน ร.ศ. ๑๒๙

ถึง เจ้าพระยายมราช

เมื่อคืนนี้จะเขียนหนังสือก็ดึกเสียแล้ว แต่ครั้นจะไม่เขียนเลยก็กลัวว่าหมอไฮเอตจะเกิดความอีก เหตุด้วยเวลานี้กำลังเกิดยาพิศม์ขึ้นในใบพลู ที่อินเดียห้ามไม่ให้ซื้อขายแลไม่ให้กินพลูกันทั่วไป โปลิศต้องเฝ้าร้านหมอกำลังทดลองอันนาไลส์หายาพิศม์ในใบพลูยังจับเค้าเงื่อน ไม่ได้ เหตุฉนั้นจึงได้ประกาศให้หยุดกินพลูให้หมดก่อนกว่าจะค้นยาพิศม์ได้แน่

แต่ท่านนายอำเภออะไรคนหนึ่งมีความสงไสย ว่าจะไม่ได้เป็นด้วยใบพลู น่าจะเป็นด้วยลูกหมาก เพราะลูกหมากบางชนิดครึกครักอะไร กินเข้าไปแล้วเวียนศีรษะด้วยมีธาตุเมานา-โปติกในนั้น เพราะธรรมดาคนที่จะกินพลูนั้นหาได้กินพลูเปล่าๆ ไม่ ย่อมเอาเนื้อลูกหมากนี้เจือลงด้วยกับเครื่องปรุงอื่นๆ จึงทำให้คนรู้สึกเมามึนศีรษะ ฤๅอีกนัยหนึ่งจะกินหมากที่ยังไม่ทันสุกดิบๆ อยู่ก็อาจจะให้บังเกิดวิงเวียนได้กระมัง แต่ยังไรๆ ก็เห็นว่าห้ามไว้เสียก่อนนั้นดี ป้องกันอันตรายได้สดวก เห็นข้อความในหนังสือพิมพ์เช่นนี้ก็นึกคิดถึงหมอไฮเอต เห็นว่าควรจะห้ามในบางกอกเหมือนกัน เพราะน่ากลัวอันตรายอยู่ไม่ใช่ฤๅ จะเป็นด้วยพลูยันฤๅหมากยันก็ไม่รู้แน่ ขอให้หารือคุณหญิงตลับจะห้ามเสียจะเป็นอย่างไร

สยามินทร์


สวนดุสิต
วันที่ ๑๕ กันยายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

จดหมายมาด้วยเรื่องลครวายังกาซิม(๑) จะถวายตัวนั้น ได้หาฤๅกันมีความพอใจจะดูอยู่ ให้คิดอ่านจัดการเอาเข้ามา ทีมันจะต้องเล่นในสเตชไม่ใช่ฤๅ สเตชของเราก็มี ให้มาดูเสีย พูดกับกรมวังเขาเสียด้วย ถ้าหากว่าจะไปในเวลาเฉลิมพระชนม์พรรษาแล้วจะช้าไป มันจะกลับ มีในวันที่ ๑๗ นี้ก็ได้ ครั้นจะมีวันที่ ๑๘ จะต่อกันกับวันเฉลิมพระชนม์พรรษาวันที่ ๑๙ เรื่องเงินขอให้รู้เค้ากันเสีย ขึ้นไป ๕๐,๖๐ ชั่งจะหมดศรัทธา

สยามินทร์

(๑) ลครแขก


สวนดุสิต
วันที่ ๒๕ กันยายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

ถึง เจ้าพระยายมราช

วันนี้ไม่ได้พบกัน เพราะความจริงก็ไม่สู้แน่ใจว่าจะได้ออกไปฤๅไม่ แต่หยุดนิ่งอยู่ก็รำคาญ ออกไปก็ถูกฝนทั้งขาไปขามา

มีเรื่องที่จะพูดส่วนการในตัว คือที่พญาไทยซึ่งจะกันเขตรตามแนวถนนดวงตวัน ตลอดขึ้นไปจนถึงถนนเป้าฤๅถนนราชดำริห์นั้น ข้อซึ่งท่านยมราชคิดว่าจะให้ขุดดินพูนถนนฟากเดียวอย่างเช่นถนนประแจจีนนั้นดี เอาคลองไว้ในเขตข้างเหนือในลำคลองนั้นจะเป็นที่ไขน้ำเข้านาได้ตลอด จะปลูกกระจับฤๅบัวอะไรก็ได้ ถ้าหากว่าที่นาเราขยายออกไปจนถึงแนวถนนดวงตวันกว้างออกไปมาก นึกสงไสยว่าประตูน้ำสามเสนจะไม่พอ ซึ่งจะให้น้ำขึ้นเลี้ยงต้นเข้าได้ตลอด ภูมินา เพราะสายน้ำในคลองสามเสนน้อย ที่พูดเช่นนี้พูดตามเสียงกรมคลองเขากล่าวไว้แต่ก่อน แต่ในการที่จะให้รู้แน่คิดว่าจะวานให้เขาตรวจดูเสียอีกครั้งหนึ่งในฤดูนี้ ถ้าหากว่าจะไม่พอ คิดว่าคลองที่เราจะขุดริมถนนนี้ให้ไปต่อคลองซึ่งกรมมรุพงษ์ฤๅเจ้าใหญ่(๑) ขุดเข้ามาจากคลองมหานาค มีประตูน้ำเสียที่นั่นอีกแห่งหนึ่ง เราจะเปิดปิดน้ำได้สดวกเหมือนกันกับข้างสามเสน แลไม่จำเป็นต้องใช้ประตูน้ำใหญ่โตอะไร เห็นจะไม่สิ้นเงินสักเท่าใดนัก ได้บอกพระยาวงษา(๒) ไปแล้ว แต่ข้อที่จะให้เป็นที่เข้าใจกันสดวกกว่าแผนที่ถนนจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ขอให้ท่านยมราชชี้แจงให้พระยาวงษาเข้าใจเขาจะได้ไปบอกให้กรมคลองคิดได้ ตกแล้วจะได้ลงมือทำทีเดียว

สยามินทร์

(๑) หม่อมราชวงษ์สุวพันธ์ (ใหญ่) สนิทวงษ์   (๒) เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (ม.ร.ว. สท้าน สนิทวงษ์)


สวนดุสิต
วันที่ ๑๒ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

เจ้าพระยายมราช

เพราะโรงบ้าขึ้นอยู่ในกรมเมือง จึงต้องให้เป็นผู้รับคำต่อว่า แผ่นกระดาษที่.............. ออกโฆษณา มีรูปภาพซึ่งถ่ายจากสมุดฝรั่งเศษ อ้างว่าชัวมองเป็นผู้แต่ง เหตุฉนั้นจึงมีภาษาฝรั่งเขียนลงไว้ใต้รูป แต่ที่เขียนลงไว้....................................................................................................
........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
มาจากตำราอะไร ก็เมื่อกล่าวว่าถ่ายจากรูปที่ปั้นไว้ที่วัดจักรวรรดิเขาเขียนหนังสือฝรั่งด้วยเมื่อไรเล่า เรื่องเมืองจีนนั้นเอาเป็นว่าดีช่างเล่น เปลี่ยนเอาหลุยส์ที่ ๑๔ เป็นเจ้ากรุงจีน...........................
........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................

สยามินทร์